เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2564 รายงานข่าวของสำนักข่าวซินหัว นครจี่หนาน ระบุข้อมูลของรัฐบาลมณฑลซานตงว่า เมืองชิงต่าวมีการขยายการตลาดสู่ระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เมืองชิงต่าวสามารถดึงดูดการลงทุนจาก FORTUNE GLOBAL 500 ได้ถึง 172 บริษัท โดยบริษัทในเมืองชิงต่าวมีการลงทุนจัดตั้งองค์กรและบริษัทในต่างประเทศกว่า 112 ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก

นายเซวีย ชิ่งกั๋ว รองนายกเทศมนตรีเมืองชิงต่าว รายงานว่า ในด้านการค้าระหว่างประเทศ เมืองชิงต่าวมีการตื่นตัว และมีการฝึกฝนอยู่เสมอ เพื่อเข้าถึงกุญแจสำคัญของการค้าระหว่างประเทศ สร้างความแข็งแกร่งของรูปแบบธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ไฟแนนซ์ การเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และด้านอื่น ๆ สร้างนวัตกรรมใหม่ทางธุรกิจ สำรวจมาตรการใหม่ ๆ เพื่อการอำนวยความสะดวกทางการค้า สร้างและเร่งนโยบายต่าง ๆ ในการพัฒนา โดยในเมืองชิงต่าวมีจำนวนบริษัทที่มีการนำเข้าส่งออกสินค้าระหว่างประเทศมากกว่า 20,000 บริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 6,000 บริษัทเมื่อเทียบกับปี 2558

ในด้านการลงทุน ปัจจุบัน 172 บริษัท จาก FORTUNE GLOBAL 500 มีโครงการลงทุน แล้วกว่า 367 โครงการในเมืองชิงต่าว และมีบริษัทในเมืองชิงต่าว จำนวน 1,820 บริษัท ที่มีการลงทุนจัดตั้งองค์กรและบริษัทในต่างประเทศ เช่น (1) Pakistan Haier & Ruba Economic Zone (2) Hisense South Africa Industrial Park ซึ่งได้กลายเป็นโครงการตัวอย่างของเขตพื้นที่ดังกล่าว

เมืองชิงต่าว ได้สร้างกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการก้าวสู่ระดับนานาชาติ เช่น (1) โครงการเขตการค้าเสรีนำร่องมณฑลซานตง ในพื้นที่เขตเมืองชิงต่าว (Qingdao area of the China (Shandong) Pilot Free Trade Zone) ซึ่งได้ดำเนินการสำเร็จแล้วกว่า 106 โครงการ (2) เมืองชิงต่าวได้รับการอนุมัติจัดตั้งเขตสาธิตความร่วมมือเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นจีน-ญี่ปุ่น (The China-Japan (Qingdao) Development Cooperation Demonstration Zone) นอกจากนี้ เมืองชิงต่าวยังได้สร้างหอนิทรรศการนานาชาติ (Qingdao International Business Club) จำนวนหนึ่ง ในการรวบรวมงานนิทรรศการ การแนะนำในด้านต่าง ๆ การค้าขาย และแพลตฟอร์มต่าง ๆ สำหรับบริษัทและสมาคมธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลก ปัจจุบัน มีบริษัทและสมาคมธุรกิจกว่า 109 บริษัท ได้เข้าร่วมในโครงการหอนิทรรศการนานาชาติของเมืองชิงต่าว และมีการลงนามแล้วกว่า 78 โครงการ เงินลงทุนรวม 59.4 ล้านหยวน

 

 

 

 

 

 

 

แหล่งที่มา: เว็บไซต์ทางการของสำนักข่าวซินหัวซานตง http://sd.news.cn/news/2021-11/18/c_1128074669.htm และ http://shandong.chinadaily.com.cn/2021-11/18/c_682977.htm วันที่ 18 พ.ย. 2564

ที่มา : https://thaibizchina.com/