อู่ฮั่นที่ฉันรู้จัก​ ตอนที่​ 3 – ร้านค้ารอบมหาวิทยาลัย

รถไฟใต้ดินสาย​2 ของอู่ฮั่น​ เป็นรถไฟใต้ดินสายที่มีผู้คนมาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง​มากที่สุด ยิ่งถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนก็เป็นที่รู้กันว่าอย่าคาดหวังว่าจะมีที่นั่งแม้จะขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดินกวางกู่ซึ่งเป็นสถานีต้นทาง​ เวลาจะเดินออกไปขึ้นรถไฟใต้ดินตอนนั้นก็ต้องออกมาทางประตูเล็กทางด้านหลังของมหาวิทยาลั​ย​ ระหว่างทางก็จะมีสารพัดร้านค้า​สารพัดร้านอาหารเต็มตลอดสองข้างทาง​ เรียกว่าถ้าเป็นคนชอบกินรับรองว่าได้กินไปตลอดทาง​ การใช้ชีวิตในเมืองนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ค่อยมีอะไรกิน​ เพราะอู่ฮั่นเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ​ เดินไปทางไหนก็มีของกินขาย

ร้านที่คนไทยชอบแวะคือร้านขายน้ำตรงประตูเล็กด้านหลังมหาวิทยาลัย​ เหลาป่านหรือเจ้าของร้านนี้เป็นคู่สามีภรรยา​วัยรุ่น​ น้ำร้านนี้จะมีเมนูที่แปรผันไปตามสภาพอากาศ​ หน้าหนาว​ หน้าฝน​ หน้าร้อน​ เมนูจะไม่เหมือนกัน​ เมนูหน้าหนาวของร้านนี้ก็จะเป็นสารพัด​ของร้อน​ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาชนิดต่าง ๆ​ แถมยังมีชาแปลกๆ​เช่น​ ชาข้าวฟ่าง​ หรือเอาชาหลายๆอย่างมาผสมกัน​ พอได้ลองก็รู้สึกว่ามันก็อร่อยดี​ ความหวานก็สั่งได้ตามชอบ​ น้ำร้านนี้ราคาไม่แพงเหมือนร้านยอดฮิตเจ้าอื่น ๆ ราคาต่ำสุดคือแก้วละ 5 หยวน (ประมาณ 25 บาท) และแพงสุดแก้วละ 12 หยวน (ประมาณ 60 บาท) สั่งเสร็จก็จ่ายเงินด้วยการสแกนวีแ​ชต​หรืออาลีเพย์​ แล้วก็รอรับสินค้า​ ที่ต้องสแกนจ่ายเงินด้วยวีแชตหรืออาลีเพย์ก็เพราะว่าคนจีนส่วนใหญ่ไม่ใช้เงินสด นิยมจ่ายเงินผ่านแอพลิเคชั่นแถมยังได้ส่วนลด ยิ่งถ้าเป็นช่วงโปรโมชั่นของร้านก่อนจะกดจ่ายเงินจะมีการ Random ส่วนลดให้เราเอาไปใช้ได้ทันที ก็จะทำให้เราซื้อของได้ราคาถูกลง แต่ถ้าจ่ายด้วยเงินสดจะไม่ส่วนลดที่ว่ามานี้

ตอนเรียนซื้อน้ำร้านนี้บ่อยจนเหลาป่าน (เจ้าของร้าน) จำได้ว่าเราชอบกินอะไร​ รสชาติแบบไหน​ หลายครั้งแค่โผล่หน้าไปเจ้าของร้านก็ถามว่าเอาเหมือนเดิมใช่ไหม​ ก็เป็นอันว่าเป็นที่รู้กันว่าเหลาป่านจำแม่น​ ถ้าหายไปหลายวันแล้วอีกวันไปซื้อก็จะถามว่าหายไปไหนมา​ ไม่เห็นหน้าหลายวัน​ แต่ที่ชอบที่สุดคือชาผลไม้ แก้วละ 12 หยวน ​เมนูนี้มีขายเฉพาะตอนหน้าร้อน​  ส่วนประกอบจะมีส้มจี๊ด​ แก้วมังกรแดง​ แตงโม​ และผลไม้ตามฤดูกาล​ ผสมกับชา​ ชาที่ผสมก็เลือกได้ว่าจะเป็นชาแดง​ ชาเขียว​ หรือชามะลิ​ รสชาติ​จะออกหอมอ่อนๆ​ กินแล้วเย็นชื่นใจ

เดินออกประต​ูด้านข้างมหาวิทยาลัยจะมีร้านอาหารจานเดียวเต็มสองข้างทาง​ ย่านนี้จะเป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านและคนในเมืองนี้ชอบกินข้าวนอกบ้าน ซึ่งอาจเป็นเพราะอู่ฮั่นเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีผู้คนจากต่างเมืองทั่วประเทศจีนมาทำการค้า ทำงาน และเรียนหนังสือ​ จนทำให้มีร้านขายอาหารที่มาจากหลากหลายมณฑลของจีน​ บริเวณนี้จะมีหมี่เสี้ยน​หรือก๋วยเตี๋ยวขนมจีน​ ร้านนี้คนไทยคนอื่นชอบหรือเปล่าไม่แน่ใจ​ แต่ฉันชอบมาก​และคนจีนก็ชอบกินเช่นกัน​ ซึ่งความจริงแล้วหมี่เสี้ยน (ก๋วยเตี๋ยวขนมจีน) เป็นอาหารขึ้นชื่อของมณฑลยูนนาน​ ส่วนอู่ฮั่นมีอาหารขึ้นชื่อคือเร่อกานเมี่ยนหรือบะหมี่แห้งร้อนราดซอสงา ที่สามารถหากินได้ทั่วเมือง​ เร่อกานเมี่ยนจะมีกลิ่นและรสเฉพาะตัว คนไทยที่มาอยู่อู่ฮั่นใหม่ๆ ก็จะชอบลองไปซื้อมากิน บางคนเมื่อกินแล้วก็จะชอบเป็นชีวิตจิตใจกินเร่อกานเมี่ยนได้ทุกวัน บางคนลองกินแค่ครั้งเดียวก็บอกว่าคงต้องไปหาอย่างอื่นกินดู การกินหมี่เสี้ยนไม่ยุ่งยากส่วนวิธีการสั่งก๋วยเตี๋ยวขนมจีนคือ​ เราจะต้องเลือกเครื่องเคราพวกเนื้อสัตว์​ พวกเนื้อหมู​ เนื้อวัวลูกชิ้น​ เต้าหู้​ เห็ดนานาชนิด และผักต่างๆ​ เช่น สลัด ผักกาดขาว ผักชี ต้นหอม ถ้าเลือกเครื่องเคราหลายอย่างราคาก็จะแพงขึ้น​ ส่วนใครที่มาเป็นคู่หรือมาหลายคนก็จะมีราคาและเครื่อง​เคราให้เลือกตามจำนวนคน เวลายกมาเสริฟก็จะใส่เครื่องปรุงทั้งมวลมาในหม้อไฟสีดำ​ เดือดปุดๆ​ ในน้ำซุบร้อนๆ​ และน้ำซุปก็จะเลือกได้ว่าเอาความเผ็ดระดับไหน มีตั้งแต่เผ็ดเล็กน้อย เผ็ดปานกลาง จนไปถึงเผ็ดที่สุด คนไทยที่ไปกินส่วนใหญ่ก็จะสั่งเผ็ดที่สุดเพราะเวลากินรู้สึกว่าถูกใจมากกว่าความเผ็ดแบบอื่น ๆ ขณะที่คนและชาติอื่นชอบสั่งแค่น้ำซุปรสเผ็ดเล็กน้อย แต่ถ้าไปกินร้านหมี่เสี้ยนที่เป็นร้านดังในห้างสรรพสินค้าหน้ามหาวิทยาลัยก็จะให้บรรยากาศอีกแบบ เพราะร้านตกแต่งบรรยากาศแบบยูนนานและจะจัดหมี่เสี้ยนมาอย่างสวยงาม
หมี่เสี้ยนนี้เหมาะสำหรับกินตอนหน้าหนาว​เพราะกินแล้วรู้สึก​อุ่นดี​ แต่มีข้อเสียคือขนมจีนและผักพวกถั่วงอกชอบดีดใส่หน้าและเสื้อกันหนาว​ ถ้าวันไหนจะไปกินหมี่เสี้ยนห้ามใส่เสื้อกันหนาวสีขาว​ เพราะเสื้อจะเป็นจุดๆ​ จากถั่วงอกที่ยังไม่ตาย​ สนนราคาหมี่เสี้ยนข้างมหาวิทยาลัย​ก็จะเริ่มต้นที่​ 10 หยวน​ เรื่อยไปจนถึง 50​ หยวน​ ปกติ​คนไทยก็กินราคาต่ำสุดเพราะมันได้เยอะจนกินแทบไม่หมด​ เจ้าของร้านหมี่เสี้ยนเป็นคนใจดี ถ้าเห็นเด็กต่างชาติ​ไปกินก็จะชอบมาคุยด้วยและคอยถามว่าพอจะกินได้ไหม เลยทำให้ได้ความรู้สึกว่าเจ้าของร้านน่าจะเป็นห่วงเป็นใยลูกค้ามากเป็นพิเศษ


ดร.ศรีสุข​ อาชา
นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค
สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๓
ศิษย์เก่า​คณะวารสารศาสตร์และการสื่อสาร​
Huazhong​ University of Science and Technology
Wuhan, Hubei

#武汉加油 #武汉 #Wuhan

อัพเดทล่าสุด

Facebook

ติดตามเราบน Facebook

Youtube

ติดตามเราบน Youtube

ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เลขที่ 21 ถนนกวงหวา เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง 100600 สาธารณรัฐประชาชนจีน อีเมล : [email protected]

© 2020-2024 Science and Technology Section, Royal Thai Embassy in Beijing Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 21 Guanghua Road, Chaoyang District, Beijing 100600 P.R.C. E-mail: [email protected]