อู่ฮั่นเป็นเมืองที่ประกอบด้วยสามฝั่งคือฝั่งฮั่นโข่ว ฝั่งอู่ชาง และฮั่นหยาง ตั้งอยู่ทางภาคกลางของจีน เป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำฮั่นซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาที่ใหญ่ที่สุดของแม่น้ำแยงซี อู่ฮั่นเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์จีนมาอย่างเข้มข้นมาตั้งแต่ยุครณรัฐ สามก๊ก จนถึงประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่ที่เป็นจุดกำเนิดของการก่อการที่อู่ชาง (Wuchang Uprising: 武昌起义) จนนำไปสู่การปฏิวัติซินไห่ในปี 1911 การโค่นล้มราชวงศ์ชิง การก่อตั้งสาธารณรัฐจีน และยังเคยเป็นเมืองหลวงช่วงสั้น ๆ ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ในปี 1937 ปัจจุบันอู่ฮั่นถูกยกระดับให้เป็นเมืองศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ในภาคกลางของประเทศจีน และยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบเชื่อมตอนเหนือและตอนใต้ของประเทศจีนเข้าไว้ด้วยกัน และทำให้อู่ฮั่นกลายเป็นเมืองที่มีสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีหลายแห่ง จนหลายคนไม่ได้เรียกชื่อสะพานตามที่เรียกกันเป็นทางการ แต่เรียกชื่อสะพานตามสีของสะพาน เช่น สะพานขาว สะพานแดง สะพานเหลือง สะพานฟ้า

อู่ฮั่นฉางเจียงต้าเฉียว(武汉长江大桥)เป็นสะพานที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจีนและชาวอู่ฮั่น เพราะเป็นสะพานแห่งแรกในประเทศจีนที่มีทั้งถนนให้รถวิ่งและรางรถไฟให้รถไฟได้วิ่งผ่าน มีลักษณะเป็นถนนสี่เลนและทางรถไฟรางคู่ควบคู่กันไป สะพานนี้ทำหน้าที่ในการเชื่อมฝั่งฮั่นโข่ว และอู่ชาง พร้อมกับเรื่องราวของประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่ที่ทอดยาวไปกับสะพานระยะทาง 1.6 กิโลเมตรแห่งนี้ 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1910 หรือเพียง 1 ปี ก่อนการโค่นล้มราชวงศ์ชิงในประเทศจีน ได้มีแผนการก่อสร้างอู่ฮั่นฉางเจียงต้าเฉียวเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงกับทางรถไฟจากปักกิ่งและกว่างโจว แต่ในช่วงดังกล่าวติดปัญหาด้านข้อจำกัดทางด้านเศรษฐกิจและสถานการณ์สงครามทั้งสงครามโลกและสงครามกลางเมือง จนในปี 1950 ได้เริ่มทำการก่อสร้างอย่างเต็มรูปแบบและก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1957 และใช้งานเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ในช่วงเวลากลางวัน สะพานอู่ฮั่นฉางเจียงต้าเฉียวตรงฝั่งฮั่นโข่วจะมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่บอกเล่าเรื่องราวของการสร้างสะพานแห่งนี้ และยังมีสวนสาธารณะให้ผู้คนได้เดินออกกำลังกายและชมธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำแยงซี อู่ฮั่นฉางเจียงต้าเฉียวในยามเย็นจะเป็นสถานที่ที่คนอู่ฮั่นชอบเดินข้ามสะพานไปยังฝั่งตรงข้ามของทั้งสองฝั่ง เพราะเป็นเหมือนจุดกึ่งกลางของทั้งฝั่งฮั่นโข่ว อู่ชาง และฮั่นหยาง ถ้าเดินมาจากฝั่งอู่ชางหรือฝั่งที่เป็นที่ตั้งของหอนกกระเรียนสัญลักษณ์ของเมืองอู่ฮั่นในวันที่มีเมฆหมอกปกคลุมสะพานจะมองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีอีกสองสะพานที่มีสีขาวและสีแดงขนาบข้างสะพานแห่งนี้ ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนกำลังมองดูภาพวาดของศิลปิน 

ในยามค่ำคืนสะพานอู่ฮั่นฉางเจียงต้าเฉียวและสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีสะพานอื่น ๆ จะถูกประดับตกแต่งด้วยไฟอย่างสวยงาม เวลานั่งเรือข้ามฟากไปจากอู่ชางไปฝั่งฮั่นโข่ว หรือจากฝั่งฮั่นโข่วมาฝั่งอู่ชาง สะพาน อู่ฮั่นฉางเจียงต้าเฉียว จะเป็นสะพานที่มีความสวยงามด้วยแสงไฟและเห็นชัดเจนมากกว่าสะพานอื่น ๆ แต่ถ้าอยากเห็นสีสันของแสงไฟจากสะพานและสีสันยามค่ำคืนของสองฝั่งแม่น้ำแยงซีในอู่ฮั่นก็ต้องนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งฮั่นโข่วมาฝั่งอู่ชางใช้เวลาประมาณ 5 นาที ค่าโดยสารเรือข้ามฝากสามารถใช้บัตรโดยสารร่วมของเมืองอู่ฮั่น (武汉通) ที่ใช้ร่วมกันได้ทั้งการจ่ายค่ารถโดยสารประจำทาง เรือข้ามฟาก และรถไฟใต้ดิน และยังใช้บัตรนี้ซื้อน้ำผ่านตู้ขายน้ำและซื้อของจากร้านค้าทั่วไปได้ด้วย เรือข้ามฟากมีให้เลือกทั้งเรือเร็วและเรือธรรมดา ลักษณะเป็นเรือ 2 ชั้น ชั้นล่างของเรือข้ามฟากจะมีทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน โดยผู้ที่จะข้ามฝากที่มีรถก็สามารถขับรถเข้าไปในเรือได้เลย ส่วนผู้โดยสารทั่วไปก็จะต้องไปนั่งบนชั้นสอง แต่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะวัยรุ่นก็ไม่ค่อยชอบนั่งเพราะต้องคอยหามุมดี ๆ ในท้ายเรือไว้ถ่ายภาพ เมื่อเรือเทียบท่าอีกฝั่งรถชนิดต่าง ๆ ก็สามารถขับรถต่อไปได้ทันที นับเป็นอีกความสะดวกสบายของผู้คนที่อาศัยในเมืองนี้

คู่ขนานไปกับอู่ฮั่นฉางเจียงต้าเฉียวยังมีสะพานอีกแห่งที่เป็นจุดดึงดูดใจของผู้คน นั่นคือ สะพานอิงอู่โจวฉางเจียงต้าเฉียว 

(鹦鹉洲长江大桥) เคยเป็นหนึ่งในสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทางติดต่อกัน 850 เมตร ตัวสะพานมีสีแดงสด นักเรียนไทยจึงเรียกชื่อสะพานนี้ว่าสะพานแดง เปิดใช้ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2014 ราวสะพานแห่งนี้จะประดับด้วยเหล็กดัดที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองอู่ฮั่น เช่น เรื่อกานเมี่ยน หอนกกระเรียน พิพิธภัณฑ์ปฏิวัติ 1911 ทั้งสองฝั่งของสะพานจะมีสวนสาธารณะให้คนได้ออกกำลังกาย ปัจจุบันอู่ฮั่นได้เปิดสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเพิ่มอีกหนึ่งแห่งคือ สะพานหยางซื่อกาง (杨泗港长江大桥)  เป็นสะพานแขวนสองชั้นระยะทาง 4.3 กิโลเมตร และถือเป็นสะพานแขวนสองชั้นที่มีช่วงยาวที่สุดในโลก เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2015 และเพิ่งเปิดใช้เมื่อปลายปี 2019 ใช้เชื่อมระหว่างฝั่งฮั่นหยางและอู่ชาง

ภาพที่เห็นจนชินตาตลอดระยะเวลาของการใช้ชีวิตในอู่ฮั่นก็คือ ในสวนสาธารณะทุกที่จะเห็นคนอู่ฮั่นหลากหลายวัยเดินออกกำลังกาย บางคนก็จับกลุ่มกันเต้นรำ บ้างก็รำมวยจีน บ้างก็รำกระบี่ บางครอบครัวก็เอาอาหารมาปิกนิก ได้ยินเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน สะท้อนให้เห็นความเรียบง่ายของผู้คน ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่โตมากมายและการจราจรที่คับคั่ง 


ดร.ศรีสุข​ อาชา
นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค
สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๓
ศิษย์เก่า​คณะวารสารศาสตร์และการสื่อสาร​
Huazhong​ University of Science and Technology
Wuhan, Hubei

#武汉加油 #武汉 #Wuhan