• คลังความรู้
  • /
  • บทความ
  • /
  • สวัสดี “วันตรุษจีนเล็ก” สัญญาณเริ่มต้นของเทศกาลตรุษจีน และทำความรู้จัก 8 วันสำคั…

สวัสดี “วันตรุษจีนเล็ก” สัญญาณเริ่มต้นของเทศกาลตรุษจีน และทำความรู้จัก 8 วันสำคั…

สวัสดี “วันตรุษจีนเล็ก” สัญญาณเริ่มต้นของเทศกาลตรุษจีน และทำความรู้จัก 8 วันสำคัญช่วงตรุษจีน

เทศกาลตรุษจีน หรือปีใหม่ของคนจีน ในความจริงแล้ว ไม่ได้มีแค่วันเดียว แต่จะมีรายละเอีบดปลีกย่อยในทุกๆวัน กินเวลาประมาณ 1เดือน นับตั้งแต่ช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือน12 และครึ่งเดือนแรกของปีใหม่ ตามปฏิทินจันทรคติจีน

แต่ในโพสต์นี้ อ้ายจงจะเล่าเฉพาะที่สำคัญๆ นับตั้งแต่ “วันตรุษจีนเล็ก” ไปจนถึงวันตรุษจีน หรือปีใหม่ของคนจีน ว่าแต่ละวัน เขาทำอะไรกันบ้าง

1. 23 หรือ 24 เดือน12 ตามปฏิทินจันทรคติจีน: วันตรุษจีนเล็ก

วันนี้ 29 มกราคม 2562 ตรงกับวันที่ 24 เดือน12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ถือเป็น “小年 เสี่ยวเหนียน” หรือวันตรุษจีนเล็ก สำหรับคนจีนทางตอนใต้ แต่ถ้าเป็นคนจีนทางเหนือ ตรุษจีนเล็ก จะตรงกับวันที่ 23 เดือน12 ไวกว่าของคนทางใต้1วัน ก็คือตรงกับเมื่อวานนี้ (28 มกราคม) สำหรับปีนี้ 2562

วันตรุษจีนเล็ก ตามความเชื่อของคนจีนตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นวันที่เทพเจ้าแห่งเตา เทพเจ้าที่คอยพิทักษ์เตาไฟในครัว ดูแลทุกคนในครอบครัว จะกลับสวรรค์ไปรายงานเรื่องราวของแต่ละครัวเรือนให้เง็กเซียนฮ่องเต้ ทราบ ดังนั้นคนจีนจึงบูชาเทพเจ้าแห่งเตา โดยจะบูชาด้วยของหวาน ของมงคล เพื่อให้เทพเจ้าแห่งเตารายงานแต่สิ่งดีดี เง็กเซียนฮ่องเต้ฟังแล้วไพเราะ เสนาะหูนั่นเอง

ในวันตรุษจีนเล็ก กิจกรรมหลักๆที่ชาวจีนนิยมทำมาตั้งแต่โบราณ คือ ทำความสะอาดบ้านเรือน และทำอาหารอร่อยๆกินกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่ในปัจจุบันชาวจีนสมัยใหม่จำนวนไม่น้อยเริ่มไม่ฉลองวันนี้ อาจจะมีเพียงนัดกินข้าวเย็น เช่น หม้อไฟ คลายความหนาวยามค่ำคืนเท่านั้น ซึ่งในบางพื้นที่ของจีน วันตรุษจีนเล็ก ไม่ใช่ทั้ง 23 หรือ 24 เดือน12 ตามปฏิทินจันทรคติ แต่จะเป็นวันอื่นๆในเดือนนั้น ก่อนที่จะถึงวันตรุษจีน โดยโลกออนไลน์ของจีนก็มีการถกประเด็นนี้วันตรุษจีนเล็กของแต่ละพื้นที่ตรงกับวันไหนบ้าง

2. 25 เดือน12 : วันตัดสินชะตามนุษย์โดยเง็กเซียน

หลังจากที่เง็กเซียนฮ่องเต้ได้รับฟังรายงานเรื่องราวของแต่ละครอบครัวในวันตรุษจีนเล็ก (23 หรือ 24 เดือน12 ตามปฏิทินจันทรคติ ) พอถึงวันที่ 25 ก็จะเป็นการตัดสินจากเง็กเซียนว่าใครจะได้รับรางวัลจสกสวรรค์บ้าง ครอบครัวชาวจีนในสมัยโบราณจึงทำ เต้าหู้ และอาหารต่างๆเพื่อบูชาและขอพรจากเง็กเซียน ซึ่งแต่ละพื้นที่ ก็จะทำอาหารหลักที่ใช้บูชาในวันนี้แตกต่างกันไป อย่างคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตงเป่ย) นิยมทำ เหนียนโต้วเปา (粘豆包) ซาลาเปาไส้ถั่วแดง โดยเป็นอาหารหลักในวันตรุษจีนอีกด้วย

3. 26 เดือน 12 : วันกินเนื้อแห่งปี (年肉)

จีนสมัยโบราณที่เป็นสังคมการเกษตร ทำไร่ทำนา โอกาสที่มื้ออาหารจะมีเนื้อสัตว์อร่อยๆอยู่บนโต๊ะอาหารของครอบครัว ค่อนข้างหายาก ยกเว้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ผู้คนเลยถือโอกาสให้วันนี้เป็นวันแห่งการกินเนื้อ ไม่ว่าจะเนื้อหมู หรือเนื้อวัว โดยครอบครัวไหนที่เลี้ยงสัตว์เป็นของตัวเอง เช่น เลี้ยงหมู ก็จะนำมาทำอาหารกินกัน หากครอบครัวไหนไม่ได้เลี้ยง ก็ไปซื้อเนื้อหมูที่ตลาด เพื่อมาทำกับข้าวกินเนื้อฉลองข้ามปี

4. 27 เดือน12: วันแห่งการทำความสะอาดเสื้อผ้าและร่างกายพื่อล้างสิ่งไม่ดี ต้อนรับสิ่งดีดีในปีใหม่

คนจีนสมัยก่อน มีความเชื่อว่า ก่อนตรุษจีน จะต้องชำระล้างร่างกายและซักเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เพื่อล้างโชคร้าย ความเจ็บไข้ ทุกข์โศกให้ออกไปจากตน

โดยในวันนี้ นอกจากจะซักผ้า อาบน้ำ ให้สะอาดหมดจด คนจีนบางพื้นที่ เช่น ปักกิ่ง และเทียนจิน ยังมีความเชื่อในการนำไก่โต้งมาทำอาหาร เพราะเชื่อว่าความสง่าของไก่โต้ง นำมาซึ่ง Good Luck ความโชคดี

5. 28 เดือน12: วันแห่งการเตรียมอาหารเพื่อฉลองตรุษจีน

คนจีนจะจัดเตรียมอาหารในวันนี้ เพื่อฉลองวันตรุษจีน และตลอดสัปดาห์แรกของปีใหม่ โดยส่วนใหญ่จะทำอาหารจากแป้ง เพราะเก็บได้นาน

คนทางเหนือ นิยมทำซาลาเปา ซึ่งจะทำออกมาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะรูปสัตว์น่ารัก ,ดอกไม้สวยๆ เป็นต้น ส่วนคนจีนทางใต้นิยมเหนียนเกา หรือที่คนไทยเรียก ขนมเข่ง

6.29 เดือน12: วันแห่งการทำความสะอาดสุสานและไหว้บรรพบุรุษ

คนจีนแต่ละครอบครัวจะมารวมตัวกันเพื่อพากันไปทำความสะอาดสุสานและไหว้บรรพบุรุษในวันนี้

7. 30 เดือน12: วันสิ้นปี

วันสิ้นปี 除夕 (ฉูซี) ที่คนไทยเรียกว่า วันไหว้ …ที่จีน เขาทำอะไรกันบ้างในวันนี้? มาดูกันดีกว่าเหมือนหรือต่างกับไทยอย่างไร

– ตกแต่งบ้านด้วย 春联 (ชุนเหลียน) กระดาษสีแดงที่เขียนเป็นโคลงกลอน หรือคำอวยพรวันตรุษจีน โดยจะมีเป็นคู่ ติดทางด้านซ้ายและขวาของประตู

โดยตรงกลางของประตูจะติดตัวอักษร 福 (ฝู) ที่แปลว่าความโชคดีมีสุขแต่ถ้าเราสังเกตให้ดี คนจีนมักจะติดตัวอักษร 福 แบบกลับหัว

สาเหตุที่ติดอักษรมงคล 福 แบบกลับหัว เพราะว่า เป็นการเล่นคำ 倒 (อ่านว่า ต้าว) ที่มีความหมายว่ากลับหัว,กลับด้าน กับ 到 ที่อ่านว่าต้าวเหมือนกัน แต่แปลว่า มาถึง

ดังนั้น การแปะอักษร 福 แบบนี้ จึงมีความหมายว่า 福到了! ความโชคดีมีสุขมาเยือนเราแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้ คนจีนยังนิยมติด 窗花 (ฉวงฮวา) กระดาษแผ่นเดียวที่นำมาตัดเป็นรูปต่างๆ เช่น รูปไก่ ,รูปตัวอักษร福 โดยจะติดไว้ที่หน้าต่าง

แขวนโคมไฟ ( 挂灯笼) เป็นโคมสีแดง แขวนไว้ที่หน้าบ้าน โดยมักจะมีอักษรมงคลบนตัวโคม

หลายบ้านจะเริ่มตกแต่งตั้งแต่วัน小除夕 (วันก่อนวันสิ้นปี/29 เดือน12)

– ไหว้บรรพบุรุษ / ไหว้เจ้า มีทั้งไหว้ที่บ้านและที่ศาลเจ้า

– จุดประทัด ตามความเชื่อของคนจีนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ จะจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีออกไป แต่ในช่วงที่หลายเมืองทางเหนือของจีน ยังคงเจอปัญหาหมอกควัน ดังนั้นรัฐบาลท้องถิ่นของแต่ละเมือง (เช่น ปักกิ่ง) จึงมีการคุมเข้มเรื่องการจุดประทัดเพื่อไม่ให้เกิดหมอกควันไปมากกว่านี้

– กินข้าวร่วมกันในคืนสิ้นปี (吃年夜饭)เทศกาลตรุษจีนหรือปีใหม่ของจีน จะเป็นช่วงที่ทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะครอบครัวเล็กหรือครอบครัวใหญ่ จะกลับมารวมตัวกัน โดยอาหารจานหลักของวันนี้จะเป็น เกี๊ยว ที่มีความหมายแฝงว่า การรวมตัวกันสัมพันธ์กันแน่นแฟ้น

– แจกหงเปา (红包)ให้กับเด็ก ลูกหลานในบ้าน โดยมักจะให้หลังจากกินข้าวคืนสิ้นปีเรียบร้อยแล้ว

– นั่งดูรายการพิเศษ งานฉลองตรุษจีน 春节联欢晚会 ของช่อง CCTV ที่มีเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 1983 ถือเป็นงานกาล่าตรุษจีนประจำชาติจีนก็ว่าได้ ถ้าใครสนใจ ดูได้ตั้งแต่ 20.00 น. ตามเวลาประเทศจีน

– 守岁 (โส่วซุ่ย) เฝ้ารอข้ามปี โดยคนในครอบครัวจะทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะไม่ยอมหลับข้ามปี เรียกง่ายๆก็ countdown นั่นเอง …หลายบ้านจะจุดพลุจุดประทัดฉลองปีใหม่จีนกันทั้งคืน จนถึงเช้าก็มี

– ในคืนวันสิ้นปี ที่จีน บางบ้านก็จะมีไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย (财神)เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เหมือนที่ไทย

8. วันที่1 เดือน1 วันแรกของปีใหม่จีน: วันตรุษจีน (春节 ชุนเจี๋ย) หรือ 初一 (ชูอี) ในภาษาแต้จิ๋วที่เราคุ้นเคย ก็ ชิวอิก หรือ วันเที่ยวนั่นเอง

วันนี้ตามประเพณีจีน คนจีนจะหยุดพักผ่อน
จะเป็นวันเดินทางเยี่ยมญาติ เพื่อ “拜年”
(ไป้เหนียน) อวยพรปีใหม่แก่กัน รวมถึงมีกิจกรรมอื่นๆที่เราคุ้นเคยเช่น จุดประทัด ซึ่งการจุดประทัดในสมัยก่อนจะเป็นการจุดไล่ภูตผีปีศาจ แต่ต่อมา ก็กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า ถึงวันตรุษจีนแล้ว ต้องจุดประทัดเพื่อขอความสุขสงบโชคดีตลอดไปและให้ชีวิตมีความสุขคึกคักเหมือนเสียงประทัด ซึ่งความจริงแล้ว หลายที่จะจุดตั้งแต่คืนสิ้นปี, กินขนมเข่ง โดยมีนัยแฝงว่า “เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นเรื่อยๆทุกๆปี” ตามชื่อขนมเทียน คือ 年糕

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ตรุษจีน





ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง

อัพเดทล่าสุด

Facebook

ติดตามเราบน Facebook

Youtube

ติดตามเราบน Youtube

ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เลขที่ 21 ถนนกวงหวา เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง 100600 สาธารณรัฐประชาชนจีน อีเมล : [email protected]

© 2020-2024 Science and Technology Section, Royal Thai Embassy in Beijing Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 21 Guanghua Road, Chaoyang District, Beijing 100600 P.R.C. E-mail: [email protected]