#เรื่องเล่ายามดึก วันนี้มีโอกาสได้อ่านบทความหนึ่งของทาง CRI สถานีวิทยุนานาชาติจีน เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษในนาม ChinaPlus บทความนี้เกี่ยวกับ “คนจีนกลุ่มที่เป็นผู้หญิงออกไปเที่ยวนอกประเทศมากกว่าผู้ชาย” ซึ่งจากการที่อ้ายจงอ่านรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนพบว่ามีหลายประเด็นที่เกี่ยวกับพฤติกรรมเที่ยวนอกประเทศด้วยตนเองของคนจีนที่น่าสนใจ จึงขอนำมาเล่าก่อนนอน ดังนี้
คือจากสถิติที่เก็บโดยCtrip แพลทฟอร์มท่องเที่ยวชื่อดังของจีน และ Global Payment ยักษ์ใหญ่อย่าง MasterCard ชี้ให้เห็นว่า “ผู้หญิงชาวจีนออกไปเที่ยวต่างประเทศแบบเที่ยวด้วยตนเอง FIT มากถึง 58% ของผู้ที่ออกไปเที่ยวนอกประเทศด้วยตนเองในสามไตรมาสแรกของปีนี้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัย ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มวัยรุ่นจีนที่เกิดในยุคช่วงปี2000เป็นต้นมา กินตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากถึง 30%”
การท่องเที่ยวของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่พึ่งพาทัวร์ จะไม่ได้ไปต่างประเทศเพื่อช้อปปิ้งเท่านั้น หากแต่มีการใช้จ่ายไปกับการซื้อประสบการณ์แปลกใหม่ ทำกิจกรรมเพื่อพักผ่อนหย่อนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ “คนจีนจะเลือกไปเที่ยวในจุดหมายปลายทางที่ผู้คนยังไม่ค่อยรู้จัก หรือไม่ฮิต อย่างถ้ามาไทยก็จะไปเมืองรองมากขึ้น และนักท่องเที่ยวจีนจะสนใจความปลอดภัยมากขึ้น มีการให้ความสำคัญต่อการทำประกันภัยขณะท่องเที่ยวในต่างประเทศ มากขึ้น”
การเดินทางท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ก็มีอัตราเติบโตที่สูงขึ้น หลังรัฐบาลจีนมีนโยบาย One belt One road หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือเส้นทางสายไหมใหม่ ในการร่วมมือกับประเทศต่างๆทั่วโลก เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา
สรุปใจความสำคัญสั้นๆของบทความนี้ที่อ่านและนำมาเล่าคือ
“สาวจีนออกมาเที่ยวต่างประเทศแบบเที่ยวด้วยตนเองมากขึ้น, คนจีนจ่ายเงินในการเที่ยวเพื่อซื้อประสบการณ์ใหม่ๆ อยากไปในจุดหมายที่ผู้คนยังไม่ค่อยรู้จัก ,แคร์ความปลอดภัยในการเที่ยวมากขึ้น ,นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางหรือเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ก่อให้ธุรกิจและท่องเที่ยวต่างเติบโตมากขึ้นทั้งคู่”
อ้ายจงอ่านบทความและนำมาเล่าจาก http://chinaplus.cri.cn/news/china/9/20181124/213953.html
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง
