5G & COVID-19

(โดยฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง)

เมื่อจีน โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่น เผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในต้นปี 2020

หนึ่งในประเทศที่เป็นเจ้าเทคโนโลยีอย่างจีน ก็ได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด และเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ คือ 5G

5G + Fiber Optic

(photo: cctv, businessinsider)

การถ่ายทอดวีดีโอสด 5G ในการก่อสร้างโรงพยาบาลชั่วคราว 2 แห่ง ในเมืองอู่ฮั่น คือ โรงพยาบาลหั่วเสินซาน (Huoshenshan Hospital) และ โรงพยาบาลเหลยเสินซาน (Leishenshan Hospital) ได้รับการสนับสนุนสัญญาณจากบริษัทโทรคมนาคม 3 แห่ง China Mobile, China Unicom, China Telecom

การพัฒนาระบบ ทดสอบระบบ และเปิดสถานีฐาน (Base Station) ใหม่ สำหรับรับ-ส่งสัญญาณ 3G/4G/5G นำเทคโนโลยี 5G + Fiber Optic (โครงข่ายใยแก้วนำแสง) เพื่อถ่ายทอดวีดีโอสด 5G ใช้เวลาเพียง 4 วัน

ด้วยระบบดังกล่าว ทำให้ได้วีดีโอที่มีความคมชัด รวดเร็ว และเสถียร ถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์บนสื่อออนไลน์ เช่น Xinhua และ CCTV ทำให้ผู้คนสามารถรับชมการก่อสร้างโรงพยาบาลได้พร้อมกันตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก

5G + Medical

(photo: sina)

การระบาดในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมการแพทย์ (5G + Medical) ได้ข้ามขั้นจาก “ขั้นตอนการทดลอง (Experimental phase)” ไปเป็น “ขั้นตอนทางคลินิก (Clinical phase)” ของเทคโนโลยี 5G

ระบบการให้คำปรึกษาผ่านทางไกล 5G ได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็วในโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ ผู้เชี่ยวชาญต่างเมืองสามารถให้คำแนะนำการรักษาแก่โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลได้ และสามารถติดตามอาการของผู้ป่วยผ่านวีดีโอคอล

5G + AI

(photo: cctv, cww.net.cn)

หุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G จำนวนหนึ่ง ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลอู่ฮั่นยูเนี่ยน (Wuhan Union Hospital) และ โรงพยาบาลถงจี้เทียนโย่ว (Tongji Tianyou Hospital)

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G และ AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ และแบ่งเบาภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ ลดการติดเชื้อกับผู้ป่วย และเพิ่มความมั่นใจ ความกล้าหาญให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่

หุ่นยนต์จะช่วยเจ้าหน้าที่ในการให้คำปรึกษาเบื้องต้น การฆ่าเชื้อโรค การทำความสะอาด และการส่งมอบยาให้กับคนไข้ เพื่อลดการติดเชื้อ และเพิ่มระดับการควบคุมพื้นที่ผู้ป่วย

5G + Thermal Imaging Technology

(photo: hangzhouwang)

ในพื้นที่แอออัด เช่น สถานีรถไฟ สนามบิน รถไฟใต้ดิน ระบบขนส่งสาธารณะ ได้มีการนำเทคโนโลยีถ่ายภาพความร้อน (Thermal Imaging Technology) มาใช้เพื่อทำการตรวจวัดอุณหภูมิของประชาชน

ระบบสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของประชาขนจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

ข้อมูลจะแสดงผลบนหน้าจอหรือคลาวด์แพลตฟอร์มแบบเรียลไทม์ ระบุผู้ที่มีอุณหภูมิสูงผิดปกติ

เป็นการช่วยรัฐบาลและองค์กรต่างๆ ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในด่านแรก

5G + Digital Learning

(photo: icourse163.org)

กระทรวงศึกษาธิการจีนกล่าว: หยุดชั้นเรียนแต่ไม่หยุดการเรียนรู้ (停课不停学!)

หลังจากมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วจีน รัฐบาลได้ออกคำสั่งเลื่อนการเปิดเทอมอย่างไม่มีกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด

นักเรียนระดับประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย สามารถเรียนรู้ผ่านพื้นที่ดิจิตอลออนไลน์ (Digital Learning Spaces) ในช่วงเลื่อนการเปิดเทอม โดยลงทะเบียนเรียนแต่ละวิชาทางออนไลน์ ส่วนพนักงานแต่ละองค์กรก็สามารถทำงาน จัดการประชุมวิดีโอ ทางออนไลน์ได้เช่นกัน

เทคโนโลยี 5G จะประกอบไปด้วย 3 คุณสมบัติหลักคือ

  1. ความเร็วของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย หรือ Enhanced Mobile Broadband (eMBB)
  2. ความล่าช้าในการรับส่งข้อมูลที่ต่ำมาก หรือ Ultra-Reliable and Low Latency Communications (uRLLC)
  3. ความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากพร้อมกันโดยใช้พลังงานต่ำ หรือ Massive Machine Type Communications (mMTC)

5G ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งด้านการแพทย์ การสื่อสารระยะไกล การศึกษา ทำให้เราได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น และการพัฒนาความเร็วในการรับ-ส่ง ข้อมูลสูงขึ้นกว่าเทคโนโลยีก่อนหน้าถึงกว่า 10 เท่า รวมทั้งมีประสิทธิภาพสูงกว่าด้วยการรองรับปริมาณข้อมูลได้มากกว่าในช่วงเวลาเท่ากัน

และที่สำคัญ เทคโนโลยี 5G ถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างทันท่วงทีในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า

เรียบเรียงโดย บุษรินทร์ เณรแก้ว

นักศึกษาฝึกงาน ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง

ที่มา