เล่าเรื่องเมืองจีน ตอน “รวมเรื่องอุทาหรณ์ รู้ทันมิจฉาชีพขโมยมือถือ และหลอกเอาเงินเกี่ยวกับมือถือ ณ เมืองจีน”
(เรื่องนี้ยาว แต่มีประโยชน์แน่นอนครับ)
ในทุกที่ ทุกสังคม ย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันไป ที่ประเทศจีนก็เช่นกัน ยังคงมีภัยมืดที่พร้อมจะเข้ามาทำร้ายเรา หากเราไม่ระมัดระวัง … อ้ายจงจึงขออาสาแฉภัยร้าย แฉกลลวงของมิจฉาชีพที่วันนี้ว่ากันด้วยมือถือ
1) “จงระมัดระวังให้มากที่สุด ก่อนจะใจดีให้คนแปลกหน้ายืมมือถือของเรา”
หนึ่งในกลอุบายของมิจฉาชีพจีนที่ใช้หลอกเหยื่อ คือการทำทีมายืมมือถือของเรา โดยมักจะอ้างว่า มือถือของเขาแบตหมด ขอยืมมือถือของเราใช้โทรสักครูุ่ เพราะมีเรื่องด่วนมาก พร้อมกับทำสีหน้าและท่าทางที่ค่อนข้างกระวนกระวายใจ ตีหน้าเศร้า เป็นต้น มีทั้งพอเราให้ยืม ก็จะทำทีเป็นโทรแล้ววิ่งเอาของเราไปเลย แต่แบบนี้ค่อนข้างเชยไปแล้ว
ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่เมืองสวีโจว มณฑลเจียงซู ผู้หญิงจีนคนหนึ่งถูกมิจฉาชีพหลอกขอยืมมือถือของเธอ โดยอ้างว่าแบตของเขาหมดและเขาจำเป็นต้องติดต่อเพื่อนของเขาด่วนเลย หญิงสาวจึงให้ยืม พอมิจฉาชีพทำทีคุยโทรศัพท์ได้สักพัก ได้บอกกับผู้หญิงว่า เดี๋ยวต้องใช้มือถือต่ออีก แต่ต้องขึ้นไปบนจัดการเรื่องข้างบนตึกสักครู่หนึ่ง ให้ผู้หญิงรอข้างล่าง เพราะข้างบนไม่ค่อยสะดวก ซึ่งผู้หญิงเริ่มกลัวว่าจะโดนหลอก แต่มิจฉาชีพรู้ทัน จึงนำมือถือiPhone6 plus ที่อ้างว่าแบตหมด ให้กับผู้หญิงไว้เป็นหลักกัน ผู้หญิงคนนี้จึงหลงเชื่อ แต่รออยู่หลายชั่วโมง มิจฉาชีพก็ไม่กลับมาตามนัด ผู้หญิงจึงดูiPhone6 Plus ในมือของเธออีกครั้ง ..พบว่าเป็นโมเดลมือถือ ไม่ใช่ของจริงแต่อย่างใด เธอจึงรู้ทันทีว่าถูกหลอกแล้ว
2) “อย่ามัวแต่กังวลเรื่องจะเบียดขึ้นรถเมล์ทันคนอื่นหรือไม่…ระวังมือถือจะโดนฉกโดยไม่รู้ตัว”
ตามสถานที่ที่คนพลุกพล่าน คนแออัด มิจฉาชีพมักจะใช้ช่องทางตรงนี้ขโมยมือถือของเรา
ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์เมื่อราวกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา…บริเวณป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งในเมืองหังโจว ผู้คนกำลังเบียดเสียดเพื่อขึ้นรถเมล์ มีมิจฉาชีพจีน2คน ทำทีจะขึ้นรถเมล์และเข้าไปเบียดหญิงสาวคนหนึ่ง จากนั้นก็ขโมยมือถือจากกระเป๋าของเธอ พร้อมส่งให้เพื่อนร่วมขบวนการที่ทำทีกำลังจะขึ้นรถเมล์เช่นกัน และเดินจากไปอย่างเนียนๆ
นอกจากขณะเบียดขึ้นรถเมล์แล้ว เวลาอยู่บนรถเมล์ในช่วงเวลาที่คนแน่นรถ เราต้องระวังมือถือและสิ่งของมีค่าของเราให้ดี เพราะมิจฉาชีพมักจะแฝงตัวอยู่บนรถเมล์ คอยขโมยมือถือและของมีค่าของเรา
ตามสถานที่ที่คนพลุกพล่านและในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยผู้คน เช่นตามสถานที่ท่องเที่ยว ก็ต้องระวังครับ
3) “เดินคุยมือถือ/ฟังเพลงด้วยมือถือ…อย่าชะล่าใจ อาจโดนฉกไปแบบไม่ทันตั้งตัว…โจรตะเกียบยังมีอยู่จริง”
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นบ่อยเหมือนกันในเมืองจีน บางคนกำลังคุยมือถืออยู่ อยู่ดีๆก็มีมิจฉาชีพมาฉกไปจากมือเราเลยก็มี หรือแม้แต่เสียบหูฟังใส่มือถือแล้วฟังเพลงอย่างเพลิดเพลิน แต่สักพักเราอาจพบว่า เพลงดับไปเฉย ไม่ใช่เหตุขัดข้องทางเทคนิคแต่อย่างใด …แต่มือถือของเราโดนฉกไปแล้วโดยเราไม่รู้ตัว…ทุกคนเคยได้ยินคำว่า “โจรตะเกียบ” หรือไม่ครับ? ที่ใช้เรียกมิจฉาชีพที่ใช้ตะเกียบในการขโมยของแบบเนียนๆ หรือจะหมายถึงคนที่ใช้วิธีอื่นแจ่ฉกไปโดยเราไม่รู้ตัว ก็เรียกได้… อ้ายจงขอบอกว่ามิจฉาชีพแบบนี้ ยังคงมีอยู่จริง มีเยอะด้วยครับ
4) “อยู่ดีๆเราก็โดนมิจฉาชีพกล่าวหาว่าเราเป็นโจรแบบเขาซะงั้น”
รูปแบบนี้ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่มิจฉาชีพนิยมใช้ในปัจจุบัน คือ เปลี่ยนจากขโมยมือถือของเรา เป็นกล่าวหาว่าเราขโมยของเขา และขู่เอาเงินจากเราแทน
ตัวอย่างเช่น มีการแจ้งเตือนภัยผ่านโซเซียลมีเดียจีนเมื่อเร็วๆนี้ว่า มีคนจีนคนหนึ่งนั่งบนรถเมล์ มิจฉาชีพมากันสามสี่คน จะมานั่งข้างเรา บริเวณเดียวกับเรา จากนั้นมิจฉาชีพที่นั่งข้างเราจะแอบเอามือถือที่เตรียมไว้ ใส่ในกระเป๋าของเรา โดยเราไม่รู้ตัว จากนั้นจะโวยวายขึ้นมาว่ามือถือหาย และให้มิจฉาชีพอีกคนโทรเข้ามือถือเครื่องนั้น…และก็เป็นไปตามแผน เสียงมือถือดังขึ้นจากกระเป๋าของเรา และแน่นอนว่า มิจฉาชีพจะกล่าวหาว่าเราคือหัวขโมย
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น สิ่งที่เราทำได้คือ “ตั้งสติ” ทำใจดีสู้เสือ(โจร) อย่าหยิบมือถือด้วยตัวเราเองเด็ดขาด เพราะจะมีลายนิ้วมือของเรา และยืนกรานอย่างหนักแน่นว่าจะให้ตำรวจเป็นคนจัดการเรื่องนี้ และบนรถเมล์จีน จะมีกล้องวงจรปิด เรายืนกรานเลยว่า ให้ตรวจเช็คจากกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ความจริง
5) “เดินของเราอยู่ดีๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าทำมือถือของมิจฉาชีพพัง”
รูปแบบนี้ มาจากประสบการณ์ตรงของอ้ายจงครับ คือ มิจฉาชีพจะเตรียมมือถือสำหรับเล่นละครตบตาเอาไว้1เครื่อง ก็จะมีหลากหลายแบบ เช่น จอร้าว, เปิดไม่ติด, เครื่องเป็นรอยแตก
มิจฉาชีพจะอาศัยจังหวะที่เราเดินคนเดียวและเดินไม่ค่อยระวัง เช่น มัวแต่เดินกดมือถือ หรือกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ …เขาจะแกล้งเดินมาใกล้เราและทำทีเหมือนเดินชนกับเรา และปล่อยของที่เตรียมไว้ให้ตกลงบนพื้น จากนั้นก็โวยวายว่า เราทำมือถือหรือสิ่งของมีค่าอื่นๆของเขาเสียหาย ให้เราจ่ายเงินชดใช้ให้กับเขา
สิ่งที่เราทำได้ เหมือนกับในข้อ 4 เลยครับ คือตั้งสติ ทำใจให้นิ่ง และยืนกรานอย่างหนักแน่นว่า ไม่ได้ทำ หากเขามั่นใจว่าเราทำ ให้ตำรวจมาช่วยจัดการ…มิจฉาชีพพวกนี้ถ้าเห็นเราเอาจริง ก็จะไม่กล้าครับ เพราะรูปแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ตำรวจมักมีข้อมูลอยู่ในมือ จึงกลัวตำรวจ… อีกทางหนึ่งที่ได้ผลคือ เดินหนีไปเลย ไม่ต้องไปแคร์ พยายามเดินหนีไปในที่ที่คนพลุกพล่านให้เร็วที่สุด
6) “อย่าหลงกลมือถือดีราคาถูก เพราะเราอาจโดนหลอกให้เสียเงินโดยไม่รู้ตัว”
รูปแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยเช่นกัน มิจฉาชีพจะทำทีเดินเข้ามานำเสนอมือถือแบรนด์ดัง รุ่นยอดนิยม ให้กับเรา เช่น iPhone ในราคาแสนถูก โดยทำให้เราหลงเชื่อว่าเป็นมือถือของแท้ โดยมิจฉาชีพจะให้เราลองเช็คมือถือของเขาดูว่าโอเคไหม จะเช็คนานแค่ไหนก็ได้ ซึ่งในช่วงเวลาที่เราเช็คมือถือ มันคือเครื่องแท้ครับ แต่พอเราตายใจและตกลงซื้อ จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เขาจะสลับเครื่อง เป็นมือถือปลอม และส่งให้กับเรา โดยจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมา เพื่อให้เรากับเขารีบแยกจากกันให้เร็วที่สุด เพื่อให้เราไม่ทันได้เช็คของ และถึงแม้เราจะเช็คของแล้วรู้ตัวว่าเป็นของปลอม มิจฉาชีพก็หนีไปไกลแล้ว
…ซื้อมือถือราคาถูกจากร้านค้าออนไลน์ ก็เช่นกัน มีหลายเคสตัวอย่าง ที่ซื้อมือถือราคาถูกจากร้านค้าออนไลน์ แต่สิ่งที่ได้ตรงกันข้ามกับที่คิด อย่างเช่นที่อ้ายจงเคยนำเสนอไปเมื่อช่วงเดือนกันยายน “สั่งiPhone7 ได้ iPhone4 และ iPhone3G พร้อมการ์ดยูกิสำหรับฟิวชั่น”
จบลงแล้วสำหรับ “เล่าเรื่องเมืองจีน” ตอน ” รวมเรื่องอุทาหรณ์ รู้ทันมิจฉาชีพขโมยมือถือและหลอกเอาเงินเกี่ยวกับมือถือ ณ เมืองจีน” หากใครที่เคยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรือเคยได้ยินได้ฟังมา …ร่วมแสดงความคิดเห็น แชร์ประสบการณ์ได้เลยครับ
ถ้าหากเห็นว่าโพสต์นี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์โพสต์นี้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนอื่นๆด้วยนะครับ ^^
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง
