(แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรทางการแพทย์เตรียมวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเมืองโมดิอินทางตอนกลางของอิสราเอล วันที่ 17 ส.ค. 2021)

เยรูซาเล็ม, 8 ต.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ต.ค.) โรงพยาบาลเบลินสันทางตอนกลางของอิสราเอล เปิดเผยผลการศึกษาแบบครอบคลุมที่วิเคราะห์ข้อมูลของประชาชนกว่า 2.5 ล้านคนและพบความเสี่ยงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อยู่ในระดับต่ำมาก แม้แต่ในหมู่ผู้ชายอายุน้อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด

ผลการศึกษาข้างต้นร่วมจัดทำโดยโรงพยาบาลเบลินสัน และคลาลิต (Clalit) องค์กรด้านการดูแลสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล และเผยแพร่ผ่านวารสารนิวอิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซีน (New England Journal of Medicine) โดยอ้างอิงการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ป่วยอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ จำนวนกว่า 2.5 ล้านคน ซึ่งเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 94

การศึกษาพบผู้มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเพียง 54 ราย โดยเป็นผู้ชาย 51 ราย และพบหลังฉีดวัคซีนแล้ว 42 วัน ทำให้อัตราการอุบัติของภาวะดังกล่าวอยู่ที่ 2.13 รายต่อผู้ฉีดวัคซีน 100,000 คน โดยอัตราดังกล่าวของผู้ชายอยู่ที่ 4.12 ราย ส่วนของผู้หญิงอยู่ที่ 0.23 ราย

ผลข้างเคียงนี้มักเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และเกิดในกลุ่มคนอายุ 16-29 ปี มากกว่าผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบทั้ง 54 รายข้างต้น แบ่งตามระดับอาการออกเป็นอาการเล็กน้อย 41 ราย (ร้อยละ 76) อาการปานกลาง 12 ราย และอาการหนัก 1 ราย

“การค้นพบนี้เผยว่าผู้ป่วยส่วนมากมีอาการป่วยเล็กน้อย ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจในระยะสั้นมากนัก และเราคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยในระยะยาว” คณะนักวิจัยกล่าวสรุป

ขอบคุณที่มาของข้อมูล :

Xinhua