ไฮไลท์
- เครื่องสีข้าวจากนครฉงชิ่งที่ส่งออกไปประเทศไทยได้ประเดิมใช้โมเดล “ขนตู้สินค้าขึ้นเรือที่ข้างเรือ” ทันทีที่มาถึงท่าเทียบเรือเป็นครั้งแรก เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวใหม่ของการปฏิรูประบบงานศุลกากรที่ท่าเรือชินโจวของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการปฏิรูประบบเคลียร์สินค้าขาเข้าแบบ “รับตู้สินค้าทันทีที่ข้างเรือ” มาแล้วก่อนหน้านี้
- โมเดลดังกล่าวช่วยให้ผู้ส่งออกประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ช่วยลดกระบวนการที่สินค้าส่งออกต้องไปขนถ่าย พักตู้สินค้าและลากตู้สินค้าในท่าเรือ โดยรถบรรทุกสามารถลากตู้สินค้าจากโรงงานเข้าไปถึงท่าเทียบเรือโดยตรง ระยะเวลาที่ใช้ตั้งแต่สั่งปล่อยจนถึงยกตู้สินค้าขึ้นเรือใช้เวลาเพียง 90 นาที ประหยัดเวลาลงจากเดิม 12 ชั่วโมง
- ความได้เปรียบด้านที่ตั้งของท่าเรือชินโจวที่อยู่ใกล้กับประเทศไทย ความถี่ของเที่ยวเรือสินค้าจากแหลมฉบัง ความรวดเร็วของพิธีการนำเข้า-ส่งออกและการขนถ่ายสินค้า รวมถึงนโยบายจ่ายเงินอุดหนุนและลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้นำเข้า-ส่งออก ช่วยประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเวลาการนำเข้า-ส่งออกได้เป็นอย่างมาก “ท่าเรือชินโจว” จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ค้าไทยในการขนส่งสินค้าทางเรือกับประเทศจีน
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวใหม่ของการปฏิรูปพิธีการศุลกากรที่ท่าเรือชินโจวของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง หลังจากที่ท่าเรือชินโจวประสบความสำเร็จในการปฏิรูประบบการเคลียร์สินค้าขาเข้ากับโมเดล “การรับตู้สินค้าทันทีที่ข้างเรือ” มาแล้ว คราวนี้เป็นการพลิกโฉมกระบวนการเคลียร์สินค้าขาออกด้วยโมเดล “ขนตู้สินค้าขึ้นที่ข้างเรือ” ทันทีที่มาถึงท่าเทียบเรือ โดยสินค้าล็อตแรกที่ประเดิมใช้โมเดลดังกล่าว คือ เครื่องสีข้าวจากนครฉงชิ่งที่ส่งออกไปประเทศไทย
การเคลียร์สินค้าขาออกด้วยโมเดล “ขนตู้สินค้าขึ้นที่ข้างเรือ” ใช้วิธีการ “ยื่นเอกสารล่วงหน้า + ถึงปุ๊บปล่อยปั๊บ” กล่าวคือ หลังจากที่ผู้ส่งออกหรือตัวแทนออกของ ได้ข้อมูลรายงานบัญชีสินค้าทางเรือขาออก (e-Manifest) แล้ว สามารถยื่นสำแดงเอกสาร (e-Paperless) ในระหว่างที่ตู้สินค้ากำลังขนส่งไปที่ท่าเรือ เมื่อตู้สินค้าถึงท่าเรือแล้ว กรณีที่ไม่ต้องเปิดตรวจตู้สินค้า สามารถลากตู้สินค้าไปขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือได้ทันที กรณีที่ต้องเปิดตรวจตู้สินค้า จะได้รับสิทธิเปิดตรวจก่อน หากสินค้าไม่พบปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆ ก็สามารถลากตู้สินค้าไปขึ้นเรือได้ทันทีเช่นกัน
โมเดลดังกล่าวช่วยให้ผู้ส่งออกประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ลดกระบวนการที่สินค้าส่งออกต้องไปขนถ่าย พักตู้สินค้า และลากตู้สินค้าในท่าเรือ โดยรถบรรทุกสามารถลากตู้สินค้าจากโรงงานเข้าไปถึงท่าเทียบเรือโดยตรง ระยะเวลาที่ใช้ตั้งแต่สั่งปล่อยจนถึงยกตู้สินค้าขึ้นเรือใช้เวลาเพียง 90 นาที ประหยัดเวลาลงจากเดิม 12 ชั่วโมง
ตามรายงาน เครื่องสีข้าวที่ส่งออกไปประเทศไทยล็อตนี้ใช้การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multi-modal Transportation) “ราง+เรือ” มาที่ท่าเรือชินโจว (สายเรือ SITC) แทนวิธีการขนส่งแบบเดิมที่ใช้การล่องผ่านแม่น้ำแยงซีเกียงไปยังท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ช่วยย่นระยะเวลาลงได้ 14 วัน และลดต้นทุนโลจิสติกส์ลงได้อย่างมาก
บีไอซี เห็นว่า ความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง และการอำนวยความสะดวกในงานศุลกากร กอปรกับความพร้อมของระบบงานขนส่ง “เรือ+ราง” ของท่าเรือชินโจวที่ใช้เชี่อมอาเซียน-จีน-เอเชียกลาง-ยุโรปไว้ด้วยกัน ทำให้ท่าเรือชินโจวกำลังได้รับความนิยมจากผู้นำเข้า-ส่งออกเป็นอย่างมาก
การเดินเรือกับประเทศไทย ปัจจุบัน มีบริการเที่ยวเรือบรรทุกสินค้าสัปดาห์ละ 5 เที่ยว แบ่งเป็นวันจันทร์ 2 เที่ยว และวันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ วันละ 1 เที่ยว ในจำนวนนี้ เป็นเส้นทางเดินเรือสายตรง (Direct service) จำนวน 3 เส้นทาง ใช้เวลาขนส่งเพียง 4 วัน โดยมีสายเรือให้บริการ 3 ราย ได้แก่ บริษัท SITC (3 เที่ยว) บริษัท PIL และบริษัท EMC
จัดทำโดย นางสาววัชราภรณ์ พรหมพินิจ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
เรียบเรียงโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.xinhuanet.com (广西新华网) ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2563
ภาพประกอบ www.freepik.com