• คลังความรู้
  • /
  • บทความ
  • /
  • นครหนานหนิงขอ 5 ปี พร้อมผงาดสู่ “ฐานการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือก” ของจีน

นครหนานหนิงขอ 5 ปี พร้อมผงาดสู่ “ฐานการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือก” ของจีน

ไฮไลท์

  • เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง กำลังเร่งพัฒนาและยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ ภายใต้หลักการให้เมืองต่างๆ แบ่งงานกันทำ และได้วางยุทธศาสตร์ จะปั้นให้ “นครหนานหนิง” เป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร ภายใน 5 ปี ซึ่งครอบคลุมทั้งตัวรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า และการบริการหลังการขาย
  • การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในลักษณะแบ่งงานกันทำ รัฐบาลกว่างซีได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาใน 4 เมืองสำคัญ ได้แก่ อัปเกรดอุตสาหกรรมรถยนต์ของเมืองหลิ่วโจว ผลักดันการพัฒนาแบรนด์รถยนต์ของเมืองกุ้ยก่าง ส่งเสริมการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ใช้พลังงานทางเลือกในเมืองกุ้ยหลิน และพัฒนาฐานการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกแห่งใหม่ในนครหนานหนิง
  • หัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในกว่างซี จะมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีด้วยตนเอง อาทิ อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง (IoT) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) การสร้างแบรนด์ การพัฒนาฐานการผลิต การพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ การพัฒนาห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ และการส่งเสริมการพัฒนาในลักษณะแบ่งปัน เช่น การพัฒนาจุดแชร์รถยนต์พลังงานทางเลือกและการแชร์ข้อมูลระหว่างภาคธุรกิจด้วย
  • สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตยานยนต์รายใหญ่ แต่ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ต่างประเทศที่เข้ามาลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แบรนด์กว่างซีจึงเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับภาคธุรกิจยานยนต์ของไทย โดยสามารถพัฒนาความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์กับภาคธุรกิจยานยนต์ในกว่างซี ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมด้านทรัพยากรและบุคลากรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

 

เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกำลังเร่งพัฒนาและยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ ภายใต้หลักการให้เมืองต่างๆ แบ่งงานกันทำ และได้วางยุทธศาสตร์ จะปั้นให้ “นครหนานหนิง” เป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร ภายใน 5 ปี ซึ่งครอบคลุมทั้งตัวรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า และการบริการหลังการขาย

ใน “แผนการทำงานเพื่อผลักดันการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์กว่างซี” ได้กำหนดเป้าหมายว่า ในปี 2568 กว่างซีจะมีมูลค่าและศักยภาพการผลิตในอุตสหากรรมยานยนต์ระดับชั้นนำของประเทศ โดยวางแผนกำลังการผลิตไว้ที่ปีละ 3.5 ล้านคัน ในจำนวนนี้ เป็นรถยนต์ระดับกลาง-สูง 3 แสนคัน และรถยนต์พลังงานทางเลือก 5 แสนคัน มูลค่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์มากกว่า 4 แสนล้านหยวน ส่งเสริมการส่งออกยานยนต์ให้ได้ปีละ 1.5 แสนคัน (เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัวจากปี 2562) และสร้างแบรนด์รถยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศอย่างน้อย 1-2 แบรนด์

การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในลักษณะแบ่งงานกันทำ รัฐบาลกว่างซีได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาใน 4 เมืองสำคัญ ได้แก่ (1) อัปเกรดอุตสาหกรรมรถยนต์ของเมืองหลิ่วโจว ซึ่งเป็นฐานการผลิตชั้นนำของกว่างซี (2) ผลักดันการพัฒนาแบรนด์รถยนต์ของเมืองกุ้ยก่าง ซึ่งเป็นฐานการผลิตขั้นรองของกว่างซี (3) ส่งเสริมการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์เชิงพาณิชย์ (Commercial vehicle) ที่ใช้พลังงานทางเลือกในเมืองกุ้ยหลิน และ (4) พัฒนาฐานการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกแห่งใหม่ในนครหนานหนิง

หัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในกว่างซียังมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีด้วยตนเอง อาทิอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งและปัญญาประดิษฐ์ การสร้างแบรนด์ การพัฒนาฐานการผลิตเพื่อรองรับการลงทุน การพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ การพัฒนาห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ และการส่งเสริมการพัฒนาในลักษณะแบ่งปัน เช่น การพัฒนาจุดแชร์รถยนต์พลังงานทางเลือกและการแชร์ข้อมูลระหว่างภาคธุรกิจ

แนวทางการดำเนินการ ได้แก่ การสนับสนุนให้ผู้ผลิตยานยนต์ในกว่างซีพัฒนาความร่วมมือกับผู้ผลิตยานยนต์ที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศที่มีสำนักงานในจีนเพื่อดึงดูดให้ผู้ผลิตเหล่านี้เข้ามาลงทุนตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม รวมถึงโครงการลงทุนด้านการผลิตขั้นสูงในกว่างซี และสนับสนุนการพัฒนาความร่วมมือกับผู้ผลิตยานยนต์ที่มีชื่อเสียงในประเทศให้เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตในกว่างซี และการพัฒนาความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในการจัดตั้งสถาบันวิจัยวัสดุยานยนต์ (ในเมืองหลิ่วโจว) และศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือก (ในนครหนานหนิง) ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ

บีไอซี ขอให้ข้อมูลว่า ปี 2562 กว่างซียังคงรักษาตำแหน่งฐานการผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 5 ของจีน รองจากมณฑลกวางตุ้ง มณฑลจี๋หลิน นครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลหูเป่ย สามารถผลิตรถยนต์ได้ 1.83 ล้านคัน ลดลง 14.89% ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่ลดลงสอดคล้องกับแนวโน้มการผลิตทั้งประเทศ

อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเสาหลักที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของเขตฯ กว่างซีจ้วง โดยมีเมืองหลิ่วโจว (รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่) และเมืองกุ้ยก่าง (รถขนส่งผู้โดยสารที่ใช้พลังงานทางเลือก) เป็นฐานการผลิตสำคัญของมณฑล สำหรับ “ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก” ในกว่างซีมีแนวโน้มการเติบโตสวนกระแสตลาดรถยนต์ทั้งประเทศ ในปี 2562 ยอดการผลิตและจำหน่ายขยายตัวสูงถึง 80.7% และ 122.2% ตามลำดับ

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการปรับเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลจีนที่หันไปให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและแนวโน้มการพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนและโลกที่กำลังเปลี่ยนถ่ายสู่ “รถยนต์พลังงานทางเลือก” รวมถึงความนิยมของผู้ใช้งานที่เริ่มเปลี่ยนจากรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้รัฐบาลกว่างซีมุ่งสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวแบบครบวงจร ซึ่งนอกจากเมืองหลิ่วโจวและเมืองกุ้ยก่างแล้ว รัฐบาลมณฑลได้กำหนดหน้าที่ให้ “นครหนานหนิง” เป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ด้วย

สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตยานยนต์รายใหญ่ แต่ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ต่างประเทศที่เข้ามาลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แบรนด์กว่างซีจึงเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับภาคธุรกิจยานยนต์ของไทย โดยสามารถพัฒนาความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์กับภาคธุรกิจยานยนต์ในกว่างซี ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมด้านทรัพยากรและบุคลากรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

 

จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.xinhuanet.com (广西新华网) วันที่ 21 กรกฎาคม 2563
      เว็บไซต์ www.gxzf.gov.cn  (广西政府官网)
รูปประกอบ www.3g.xici.net

 

ที่มา : https://thaibizchina.com/

อัพเดทล่าสุด

Facebook

ติดตามเราบน Facebook

Youtube

ติดตามเราบน Youtube

ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เลขที่ 21 ถนนกวงหวา เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง 100600 สาธารณรัฐประชาชนจีน อีเมล : [email protected]

© 2020-2024 Science and Technology Section, Royal Thai Embassy in Beijing Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 21 Guanghua Road, Chaoyang District, Beijing 100600 P.R.C. E-mail: [email protected]