นางลู่ เสี่ยวคุน (Lu Xiaokun) ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเกม มณฑลกวางตุ้ง คาดการณ์ว่ารายได้ของอุตสาหกรรมเกมในมณฑลกวางตุ้งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 สืบเนื่องจากมาตรการควบคุมและป้องกันโรค COVID-19 ที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในที่พักอาศัยมากขึ้น และยังระบุอีกว่าเมื่อเดือนมกราคม – มีนาคม 2563 จำนวนผู้เล่นเกมในมณฑลกวางตุ้งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

มณฑลกวางตุ้งผู้นำอุตสาหกรรมเกมในจีน
มณฑลกวางตุ้งเป็นผู้นำในตลาดเกมของจีน เมื่อปี 2562 มณฑลกวางตุ้งมีรายได้จากอุตสาหกรรมเกม 189,900 ล้านหยวน (27,527 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.86 เมื่อเทียบกับปี 2562 ทั้งนี้ รายได้ของอุตสาหกรรมเกมของมณฑลกวางตุ้งคิดเป็นร้อยละ 76.9 ของรายได้จากอุตสาหกรรมเกมทั้งหมดของจีน

เมื่อปี 2562 มณฑลกวางตุ้งมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกมทั้งสิ้น 10,000 บริษัท มากที่สุดในจีน ในจำนวนดังกล่าว เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านหยวน (1,449ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จำนวน 3 บริษัท บริษัทที่มีมูลค่า 2,000 – 10,000 ล้านหยวน (289 – 1,449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จำนวน 4 บริษัท และ บริษัทที่มีมูลค่า 500 – 2,000 ล้านหยวน (72 – 1,449 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จำนวน10 บริษัท นอกจากนี้ มณฑลกวางตุ้งมีจำนวนผลิตภัณฑ์เกมทั้งสิ้น 400 เกม ในจำนวนนี้ เป็นเกมในโทรศัพท์มือถือจำนวน 377 เกม คิดเป็นร้อยละ 94.3 ของจำนวนเกมในโทรศัพท์มือถือในจีนทั้งหมด

ปัจจุบัน บริษัท Tencent เป็นบริษัทที่ผลิตเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อปี 2562 มีรายได้จากเกมออนไลน์ 30,300 ล้านหยวน (4,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปี 2561 นอกจากนี้ มณฑลกวางตุ้ง ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทเกมที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อาทิ บริษัท NetEase ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกและมีสำนักงานใหญ่ที่นครกว่างโจว

อุตสาหกรรมเกมขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานการผลิต

อุตสาหกรรมเกมโดยเฉพาะเกมออนไลน์เป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เนื่องจากเกมออนไลน์ต้องการคอมพิวเตอร์และหน้าจอแสดงผลประสิทธิภาพสูง ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ชิปแสดงภาพ (Graphics Processing unit) และอุปกรณ์ประมวลผลระดับสูงควบคู่กัน ดังนั้น การเติบโตของอุตสาหกรรมเกมจึงเป็นพัฒนาการสำคัญที่จะส่งผลให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูงของมณฑลกวางตุ้งมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://thaibizchina.com/