ทางการปักกิ่งเริ่มสอบสวนกรณี “ผู้ป่วยCOVID-19รายใหม่ที่เดินทางกลับจากไทย” โดยสาเหตุที่สอบสวน เนื่องจากพบว่า สาวจีนวัย31ปีรายนี้ “เดินทางไปกรุงเทพมหานคร วันที่23 ก.พ. โดยไม่ได้รายงานต่อเขตที่พักอาศัย ในขณะที่ปักกิ่งมีระเบียบเข้มงวดเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดที่ใครก็ตามเข้าออกเขตที่พักจะต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่ มิหนำซ้ำ พอกลับมาที่ปักกิ่ง ในวันที่ 4 มี.ค.63 ก็ไม่มีการรายงานเช่นกัน และไม่กักตัวเองที่บ้านด้วย ซึ่งถือว่าผิดระเบียบชัดเจน ตามข้อมูลจาก 人民日报 (People’s Daily) สื่อจีน
สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายนี้ มีดังนี้
– เดินทางจากปักกิ่งไปไทยเมื่อ 23ก.พ.63 โดยเที่ยวกรุงเทพและเชียงใหม่ จากนั้นนั่งเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิกลับไปปักกิ่งในวันที่ 4มี.ค.63 โดยไฟล์ทบินที่ TG614 ตามการรายงานของ 北京日报 (Beijing Daily)
– เป็น ผู้หญิงชาวจีน อายุ31ปี ชาวมณฑลเจ้อเจียง แต่พักอาศัยที่เขต北京经济技术开发区(Economic and Technological Development Zone) ในกรุงปักกิ่ง
โดยเริ่มมีไข้และไอ ในวันที่ 7มี.ค.63 แต่ไปตรวจรวมถึงทำCT Scanพบว่าปกติ ยังไม่ได้เป็นCOVID-19
แต่ในวันที่ 12 มี.ค.63 ทางหน่วยควบคุมและป้องกันโรคมณฑลกว่าตงได้ติดต่อคนนี้ เพื่อแจ้งว่า “คนที่เที่ยวด้วยกันขณะไปไทย ตอนนี้กลับมาจีนและได้รับการตรวจยืนยันว่า ติดเชื้อ ”
วันที่ 13 มี.ค.63 จึงเข้ารับการกักตัวและเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลในเขตที่เข้าพักอาศัยอยู่ที่ปักกิ่งนั่นเอง ในฐานะผู้เสี่ยง
วันที่ 14 มี.ค.63 ผลตรวจออกมาว่า ติดเชื้อ
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง