ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างนครฉงชิ่งและประเทศในกลุ่มอาเซียนได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม 2563 การนำเข้าและส่งออกไปยังอาเซียนมีมูลค่า 93,190 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และคิดเป็นร้อยละ 17.8 ของการนำเข้าและส่งออกโดยรวมของนครฉงชิ่ง ทำให้อาเซียนกลายเป็นคู่การค้าที่ใหญ่ที่สุดของนครฉงชิ่ง
นครฉงชิ่งสร้างความร่วมมือกับอาเซียนในเชิงลึกยิ่งขึ้นผ่านการพัฒนา 4 ประการ ได้แก่
ประการแรก การใช้โอกาสจากการลงนามของรัฐบาลจีนในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ขยายขนาดการค้าทวิภาคี เสริมสร้างความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรม ปรับปรุงระดับการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่าย พัฒนานครฉงชิ่งให้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทางการค้าและศูนย์กลางโลจิสติกส์ของประเทศตามนโยบายข้อริเริ่มแถบและเส้นทาง ส่งเสริมการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรม
ประการที่สอง การปรับปรุงขีดความสามารถของพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการขนส่งทางบกและทางทะเลอย่างครอบคลุม ส่งเสริมการคมนาคมหลายรูปแบบ ผลักดันบทบาทของการขนส่งและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงระดับการเชื่อมต่อโครงข่ายของโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ทางรถไฟ ทางหลวง ท่าเรือ สนามบิน และการสื่อสาร
ประการที่สาม ปรับปรุงระบบกลไกการทำงานของโครงการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่างจีน – สิงคโปร์อย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากเขต เมือง และมณฑลในภูมิภาคตะวันตกของจีน รวมถึงประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนมากขึ้น นอกจากนั้น นครฉงชิ่งจะทำหน้าที่ในการประสานงานและส่งเสริมการดำเนินโครงการด้านนวัตกรรม เพื่อการเชื่อมต่อแบบครบวงจร
ประการที่สี่ การผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจดิจิทัล ขยายแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านดิจิทัล ดำเนินโครงการเศรษฐกิจดิจิทัล กำหนดรูปแบบการค้าดิจิทัล กระชับความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การพัฒนา 5G พัฒนาด้านทุนข้ามพรมแดน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน และด้านอื่น ๆ
แหล่งที่มา เว็บไซต์ทางการของกระทรวงพาณิชย์สาธารณรัฐประชาชนจีน
http://www.mofcom.gov.cn/article/resume/n/202012/20201203020214.shtml วันที่ 4 ธันวาคม 2563
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู