ขอชี้แจงเพิ่มเติมสำหรับสถานการณ์ในเมืองอู่ฮั่น ที่ได้สัมภาษณ์น้องนศ.ไทยคนหนึ่งที่ ม.อู่ฮั่นนะครับ คือ อันนี้เป็นแค่ ม.เดียวนะครับ ซึ่งม.อื่นๆรวมถึงพื้นที่อื่นๆของอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย ก็อาจจะแตกต่างกันออกไป
ดังนั้น ไม่สามารถจะชี้วัดได้ว่า สรุปแล้วสถานการณ์แย่มาก แย่น้อย หรือไม่แย่ เพราะความรู้สึกของคนเราที่มีต่อแต่ละสถานการณ์นั้นแตกต่างกัน
แต่เท่าที่คุยกับคนไทยในพื้นที่อื่นๆในอู่ฮั่นและหูเป่ย สรุปได้ประมาณนี้
1. หากอยู่ในสถานศึกษา มาตรการของแต่ละม.แตกต่างกันไป และพวกร้านค้าต่างๆ หลายพื้นที่ก็มีจำกัด เพราะความจริงแล้ว ช่วงตรุษจีนโดยปกติก็ปิดกันเกือบหมดอยู่แล้ว (ตอนอ้ายจงอยู่จีนก็เช่นกัน) พอมามีสถานการณ์โรคระบาดและปิดเมือง ก็เลยลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะ “การวิตกกังวลและความกลัว”
2. แม้จะมีร้านค้าที่เปิด แต่หลายพื้นที่ก็มีของจำกัด ชาวเมืองอู่ฮั่นเองก็มีกักตุนสินค้า ทำให้หลายอย่างเริ่มขาดแคลน ในฐานะคนไทยในต่างแดน จึงกังวลมากขึ้น ก็เป็นธรรมดาที่ต้องกังวลนะอ้ายจงว่า
3. อารมณ์ของคนไกลบ้าน พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ บ้านเราคือที่ที่สบายใจและรู้สึกปลอดภัยที่สุด เหมือนกับนักศึกษาต่างชาติและคนต่างชาติหลายคนที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ประเทศของเขาเริ่มเตรียมการมารับและอพยพแล้ว
จากข้อมูลล่าสุดที่อ้ายจงได้รับมา “ทางรัฐบาลไทย ก็เตรียมการไปรับคนไทยที่อู่ฮั่นเช่นกัน แต่ต้องรอทางเมืองอู่ฮั่นเปิดเมือง หรือไฟเขียวให้เข้าไปได้ ซึ่งประเทศอื่นก็รอเช่นกัน” แม้แต่กรุ๊ปทัวร์เมืองอู่ฮั่นถ้าจะกลับเข้าจีนตอนนี้ยังต้องไปลงเมืองอื่นที่มีความร่วมมือกับอู่ฮั่น เพราะอู่ฮั่นมีมาตรการปิดเมืองอยู่
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดของคนไกลบ้าน ก็คงเป็นการกลับบ้านในช่วงเวลาที่น่าวิตกแบบนี้ล่ะครับ แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือจากในประเทศนั้น แต่อย่างไรซะ บ้านเราก็สบายใจที่สุดในช่วงเวลายามยากแบบนี้
4. จากการที่อ้ายจงได้ตรวจสอบแหล่งข่าวต่างๆในอู่ฮั่น ตอนนี้เมืองอื่นๆนอกอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย ได้เริ่มส่งผักและวัตถุดิบในการดำรงชีพเข้าไปในอู่ฮั่นเพื่อส่งต่อไปตามย่านที่พักอาศัยและตลาดร้านค้าครับ
5. หากมีเหตุฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อสถานทูตไทยในปักกิ่ง ได้ที่เบอร์ 15727312531
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง