เรื่องเล่าเมืองจีนจากวงสนทนาตามฉบับเพื่อนคุยกับเพื่อนคนจีน (และคนไทยในจีน)
ในฐานะของคนทำเพจ ทำสื่อออนไลน์ และบริษัทการตลาดจีนที่ทำให้แบรนด์สินค้าและบริการในไทยเป็นที่รู้จักอ้ายจีน การมาปักกิ่งของอ้ายจงกับหุ้นส่วนคราวนี้ จึงนัดเพื่อนๆพี่ๆ อัพเดทเรื่องราวในจีนและพูดคุยธุรกิจกัน
เชื่อว่าทุกคนคงได้อ่านข้อคิดเห็นเกี่ยวกับจีนของอ้ายจงมาโดยตลอด คราวนี้มาอ่านความคิดเห็นและประสบการณ์ของคนอื่นที่อ้ายจงไปพูดคุยและสรุปประเด็นเด็ดมาฝากกันบ้างครับ
—-
พี่โบว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไทยประจำสถานีวิทยุกระจายเสียงนานาชาติแห่งชาติจีนCRI ภาคภาษาไทย ได้ให้ข้อมูลในฐานะคนทำงานด้านสื่อและใช้ชีวิต ณ ปักกิ่งเกือบ2ปี ว่า
“ประเทศจีน โดยเฉพาะปักกิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา คนจีนมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในแง่ของการศึกษาที่คนจีนให้ความสำคัญมาก อย่างครอบครัวไหนมีลูก ก็จะพยายามสร้างพื้นฐานการศึกษาให้แก่ลูกตั้งแต่ยังเด็ก พาไปเรียนพิเศษด้านต่างๆ เด็กบางคนอายุ 2-3ขวบ ก็ไปเรียนเสริมศิลปะ ภาษา และดนตรี อย่างเปียโนเป็นที่นิยมมาก”
พอพูดถึงการศึกษา ทำให้อ้ายจงมีความอยากรู้เกี่ยวกับมุมมองของคนจีนในการเรียนต่อต่างประเทศซึ่งวนไทยเองก็มีนักศึกษาจีนเข้ามาเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10ปีมานี้
พี่โบว์ได้เล่าให้ฟังอย่างสนุกว่า “นี่เป็นสิ่งที่พี่อยากรู้มากเช่นกัน พอมาอยู่จีน จิตวิญญาณของคนทำงานสื่อก็ถูกปลุกขึ้นมา พี่สัมภาษณ์และสอบถามคนจีนหลายคน สรุปได้ว่า ถ้าครอบครัวไหนมีฐานะมีเงินพอที่จะส่งลูกไปต่างประเทศได้ จะวางแผนไว้แต่เนิ่นๆเลย”
—“โดยเฉพาะอเมริกา คนจีนหลายคนมีความเชื่อว่า อเมริกาคือดินแดนรวมคนเก่ง แม้แต่คนจีนเก่งๆก็ไปเป็นอาจารย์ที่นั่นหมด ดังนั้น ถ้าได้ไปเรียนที่นั่น กลับมาจีน จะเหนือกว่าคนอื่น”
แล้วทำไมคนจีนตอนนี้ถึงไปเรียนที่ไทยกันมากขึ้นล่ะ เรื่องนี้ “เพื่อนคนจีนชาวมณฑลซานตงแต่ทำงานอยู่บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ในปักกิ่ง” ได้แสดงความคิดเห็นขณะที่พวกเรากินอาหารเย็น จนต้องวางช้อนและหยุดฟัง เพราะเรื่องนี้มีรสชาติมากกว่าอาหารที่กินเสียอีก
“จุดเริ่มต้นของการเรียนต่อในไทยของคนจีน คือส่วนใหญ่สอบเกาเข่าได้คะแนนไม่ดี เรียกว่าสอบไม่ติดนั่นแหล่ะ เลยเลือกที่จะไปเรียนต่างประเทศและไทยก็ค่าเรียนไม่แพง ค่าครองชีพถูก ทำให้ชนชั้นกลางที่อาจไม่ได้มีเงินขนาดส่งลูกไปอเมริกาหรือยุโรป ส่งมาไทยแทน แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ต้องการหางานและทำธุรกิจในไทย กลายเป็นอีกจุดประสงค์หนึ่งที่มีความสำคัญมาก ที่รู้เพราะว่าเคยมาทำงานในไทยและมีเพื่อนคนจีนในไทยหลายคน”
พอพูดถึงคนจีนไปทำงานในไทย ก็ทำให้อ้ายจงนึกถึงประเด็นต่อไปที่จะเล่าให้ฟัง จากการพูดคุยกับเพื่อนของอ้ายจงที่เป็นผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงในองค์กรใหญ่ของจีน สองคน ซึ่งอ้ายจงและพี่เฟิร์น หุ้นส่วนบริษัทที่มาปักกิ่งด้วยกัน ต่างเปิดประเด็นถามพร้อมกันว่า “คิดว่าคนไทยกับคนจีนทำงานต่างกันอย่างไร? ในมุมมองของพวกคุณที่ต่างมีประสบการณ์เคยไปทำงานที่ไทยรวมถึงคู่ค้าคนไทยหลายปี”
พวกเขาทั้งสอง มีคำตอบที่เหมือนกันที่พอจะสรุปได้ดังนี้
“คนจีนมีความทะเยอทะยานสูงกว่าคนไทย เพราะมีพื้นฐานของการเป็นนักต่อสู้ ต้องสู้กับแรงกดดันและการแข่งขันสูง คือต้องยอมรับว่าจีนมีประชากรเยอะ หากไม่เก่งจริงก็ไม่ได้รับโอกาสที่ดี อัตราการแข่งขันสูงกว่าไทย คนจีนจึงขยันมาก
นอกจากนี้ยังมองว่า คนจีนกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะใส่ความคิดตนเองลงมาในงาน และมีความคิดสร้างสรรค์ในงาน ไม่ได้ทำงานตามสั่งอย่างเดียว แต่สามารถขยายงานต่อไปได้อีก แต่ไม่ใช่ว่าคนไทยไม่มีข้อดีนะ คนไทยข้อที่ดีกว่าจีนเลยคือ มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น บางครั้งแม้งานจะเครียดมาก แต่ก็ทำให้สถานการณ์ออกมาสบายๆได้ ทั้งนี้ก็ไม่ได้เหมารวมคนจีนหรือคนไทยหมดทุกคนนะ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนตัวแต่ละคนด้วย”
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง