อู่ฮั่นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอากาศแปรปรวนมากเมืิองหนึ่ง จนมีสโลแกนของเมืองว่า “อู่ฮั่นเปลี่ยนแปลงทุกวัน-武汉每天不一样"ในหน้าหนาวบางวันอาจเจอทั้งฝนทั้งลมแรงๆ หน้าหนาวก็หนาวจับใจอุณหภูมิติดลบมีหิมะตกแถมลมแรงมาด้วย หน้าร้อนก็ร้อนสุดขีด หน้าร้อนที่เคยเจอบางวันอุณหภูมิ 43 องศา เพียงแค่นั่งอยู่เฉยๆก็เหงื่อไหลแล้ว แถมยังร้อนแบบแห้งๆ ไม่มีลมแต่พอตกบ่ายมากลับมีลูกเห็บและพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองผสมโรงเข้ามาด้วย อู่ฮั่นยามฝนฟ้าคะนองไม่ต้องออกไปไหนเพราะลมแรงบวกฟ้าผ่า มหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ได้รับการขนานนามจากคนจีนว่าเป็น “มหาวิทยาลัยต้นไม้” ที่อยู่ท่ามกลางป่าคอนกรีตถนนทุกเส้นของมหาวิทยาลัยจึงเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล คืนไหนถ้ามีฝนฟ้าคะนอง รุ่งเช้าออกจากหอพักไปเรียนจะเห็นรถของมหาวิทยาลัยมาเก็บกวาดเศษกิ่งไม้ใบไม้ที่หักลงมาเกลื่อนถนน เหมือนกับว่าเพิ่งผ่านพายุใหญ่ก็ไม่ปาน แต่เศษกิ่งไม้ใบไม้พวกนี้จะถูกเก็บอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของป้าๆลุงๆ ของพนักงานกวาดถนน เวลาไม่นานถนนที่เต็มไปด้วยเศษซากกิ่งไม้ก็จะกลับมาสะอาด ไม่ทิ้งร่องรอยใบไม้ให้เห็น
เรื่องที่เรารู้กันอีกอย่างคือความขะมุกขมัว ด้วยความที่อู่ฮั่นมี “ตงหู” ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจีน บรรยากาศของเมืองจึงจะเต็มไปด้วยไอหมอก บางทีมันก็ดูโรแมนติก บางทีมันก็จะดูเหงาๆ แต่ทะเลสาบตงหูมันกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนเรารู้สึกว่าทำไมขับรถมาตั้งไกลมันก็ยังเป็นตงหูอยู่ และตงหูที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้มันคือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองอู่ฮั่น
เสิ่นหลินกงหยวนคือสวนสาธารณะที่อยู่ติดกับมหาวิทยาลัย และเป็นส่วนหนึ่งของตงหู มันคือสถานที่ๆ คนในย่านกวางกู่ชอบไปปิกนิก เอาข้าวไปกิน ทำอาหารปิ้งย่าง พายเรือ ปั่นจักยาน และช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณปลายกุมภาพันธ์-เมษายน ที่นี่จะกลายเป็นที่ชมดอกซากุระอีกแห่ง ขณะที่นักท่องเที่ยวจะเข้าใจกันว่าดอกซากุระมีแต่ที่มหาวิทยาลัยอู่ฮั่นและสวนซากุระ แต่ความจริงแล้วทุ่งซากุระในอู่ฮั่นมีให้ชมหลายที่ แม้แต่ในมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ทุ่งซากุระก็มีอยู่ไม่น้อย เอาเป็นว่ารอบๆตงหูมีซากุระอยู่ทุกที่ แล้วแต่ว่าเราจะไปที่ไหนเท่านั้นเอง นอกจากซากุระแล้วสถานที่ท่องเที่ยวรอบตงหูยังมีดอกไม้ชนิดอื่น เบ่งบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เราเป็นนักเรียนไทยที่เมืองไทยไม่ค่อยมีซากุระมากนัก ฉันเองก็เคยเห็นแต่นางพญาเสือโคร่ง พอได้เห็นก็ตื่นเต้นกันใหญ่ เป็นที่สนุกสนานกันไป คนอู่ฮั่นและคนจีนก็ชอบดอกไม้เหมือนกัน พอถึงเวลาดอกซากุระบาน ผู้คนจากทั่วสารทิศก็จะหลั่งไหลกันมาชมซากุระ ไม่เว้นแม้แต่สวนซากุระของมหาวิทยาลัยตรงประตูหนานซานเหมิน ที่อยู่ใกล้กับคาร์ฟู
แต่ถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงกำลังจะก้าวสู่ฤดูหนาวปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม ต้นแปะก๊วยก็จะผลัดใบสีเหลืองอร่ามไปทั้งต้น ส่วนเมเปิ้ลแดงก็จะสีแดงสด สีที่ตัดกันมันทำให้รู้สึกถึงภาพวาด ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีสถานที่ต่างๆทั่วเมืองอู่ฮั่นก็จะมีผู้คนออกมาถ่ายรูปกับใบไม้เปลี่ยนสีกันอย่างคึกคัก สวนแปะก๊วยตรงตึก12 ฝั่งตะวันตกใกล้ๆกับประตูหนานซานเหมิน ก็จะมีผู้คนไปถ่ายรูปกับใบไม้เปลี่ยนสี บางคนก็จะลงทุนแต่งชุดจีนโบราณสร้างบรรยากาศย้อนยุคไปอีกแบบ นอกจากแปะก๊วยตรงนี้แล้ว ยังมีสวนแปะก๊วยใกล้กับสำนักงานนักเรียนนานาชาติของมหาวิทยาลัยที่เราชอบไปถ่ายรูปกันทุกปี สอบถามได้ความว่าต้นไม้เปลี่ยนสีแบบนี้ใครๆก็ชอบ
แต่ต้นแปะก๊วยเป็นต้นไม้สวยทีเดียว คือจะมีความสวยงามประมาณอาทิตย์เดียวเท่านั้น ความเหลืองอร่ามทั้งต้นก็จะหายวับไปกับตาถ้าฝนตก ยิ่งอู่ฮั่นเป็นเมืองที่มีอากาศแปรปรวน เพียงแค่แปะก๊วยเจอฝนตกลงมาห่าใหญ่ สีเหลืองอร่ามทั้งต้นก็จะเหลือแต่ก้านให้เห็น นักเรียนที่นี่จึงเป็นที่รู้กันว่าถ้าเห็นว่าแปะก๊วยเหลืองทั้งต้นแล้วให้รีบไปถ่ายรูป เพราะไม่รู้ว่ามันจะสวยไปได้อีกนานแค่ไหน
ดร.ศรีสุข อาชา
นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค
สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๓
ศิษย์เก่าคณะวารสารศาสตร์และการสื่อสาร
Huazhong University of Science and Technology
Wuhan, Hubei
#武汉加油 #武汉 #Wuhan