อู่ฮั่นแม้จะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศจีน แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแอ่งกระทะและเป็นที่ตั้งของทะเลสาบตงหูซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน อู่ฮั่นจึงเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีอากาศแปรปรวนอีกเมืองหนึ่งของจีน หน้าร้อนก็ร้อนจนเหงื่อไหลหน้าหนาวก็หนาวจับใจ คนในเมืองนี้ส่วนใหญ่จึงต้องพกร่มและขวดน้ำเป็นอุปกรณ์ประจำกายพร้อมกับต้องติดตามสภาพอากาศจากแอพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศทุกวัน เพราะสภาพอากาศในแต่ละวันค่อนข้างคาดเดาได้ยากและอาจจะได้เจอทั้งฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาวในวันเดียว

ช่วงปลายฝนต้นหนาวในอู่ฮั่นจะเริ่มช่วงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม สิ่งที่พอจะสังเกตได้คือต้นไม้ที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยจะค่อย ๆ ผลัดใบและเปลี่ยนสี โดยเฉพาะต้นแปะก๊วยจะกลายเป็นสีเหลืองทั้งต้นและต้นเมเปิ้ลที่อยู่เต็มมหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาล และต้นเมเปิ้ลแดงมีใบสีแดงสด เป็นสัญลักษณ์ที่เข้าสู่หน้าหนาวเต็มตัว แต่ลมหนาวในแต่ละปีอาจจะมีช่วงเวลายาวนานไม่เท่ากัน บางปีหนาวนาน บางปีหนาวสั้น

โดยเฉลี่ยแล้วหน้าหนาวของอู่ฮั่นจะเริ่มตั้งแต่ช่วงประมาณกลางเดือนธันวาคมจนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรืออาจจะเลยช่วงตรุษจีนไปอีกประมาณสองสัปดาห์หรือนานกว่านั้น ช่วงต้นของฤดูหนาวอุณหภูมิจะต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ส่วนกลางคืนอุณหภูมิจะที่อยู่ที่ประมาณ 0-2 องศาเซลเซียส และจะมาพร้อมกับฝน ฝนฟ้าคะนอง ลมที่พัดอย่างแรง ฝนที่มาพร้อมกับหน้าหนาวจะยิ่งทำให้อุณภูมิที่หนาวอยู่แล้วหนาวมากขึ้น อุปกรณ์บรรเทาความหนาวประเภทผ้าห่มไฟฟ้า ฮีตเตอร์ ผ้าห่มสารพัดชนิด ก็จะเริ่มถูกนำมาใช้บรรเทาความหนาว แต่การเรียนการสอนก็เปิดตามปกติไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ยิ่งวันไหนมีเรียนตอนเช้ามีฝนตกตอนหน้าหนาวและลมพัดแรงก็ยิ่งหนาวจับใจ

เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว เวลาเดินไปตามถนนจะเห็นพนักงานของเมืองเอากระสอบหรือฟางที่มัดเป็นแผ่น ๆ ไปโอบไว้รอบ ๆ โคนต้นไม้ทั่วเมือง หรือบางครั้งก็จะเห็นพนักงานเอาน้ำยาสีขาวไปทาบริเวณโคนต้น เพื่อรักษาความอบอุ่นของต้นไม้เอาไว้ ส่วนตามท่อประปาก็จะต้องเอาฟางที่เป็นแผ่น ๆ ไปพันไว้เพื่อกันไม่ให้น้ำในท่อจับตัวเป็นก้อน  ยิ่งในมหาวิทยาลัยมีต้นไม้มากก็จะเห็นโคนต้นไม้สีขาวตัดกับต้นไม้สีน้ำตาลอ่อนที่ให้ความรู้สึกว่ามีความงามไปอีกแบบ

ภายในหอพักนักศึกษานานาชาติของมหาวิทยาลัยจะมีเครื่องปรับอากาศซึ่งสามารถปรับได้สองระบบให้เป็นทั้งแอร์และฮีตเตอร์ หน้าร้อนก็ปรับให้เป็นแอร์หน้าหนาวก็ปรับให้เป็นฮีตเตอร์ และยังต้องใช้ฮีตเตอร์ตัวเล็กที่มีหน้าตาคล้ายกับพัดลมมาช่วยเพิ่มความอบอุ่น เพราะต่อให้เปิดฮีตเตอร์ตัวใหญ่แล้วก็ยังรู้สึกว่าอบอุ่นไม่พอ ส่วนที่นอนก็จะต้องปูด้วยผ้าห่มไฟฟ้าแล้วเอาผ้าปูที่นอนทับอีกชั้น ตอนไปอู่ฮั่นตอนแรกไม่ยอมใช้ผ้าห่มไฟฟ้าเพราะคิดว่าใช้ผ้าห่มหนา ๆ น่าจะพอไหว แต่พอเข้าหน้าหนาวจริง ๆ คนเมืองร้อนอย่างเราทนหนาวไม่ไหวก็ต้องยอมซื้อผ้าห่มไฟฟ้าและอุปกรณ์แก้หนาวอื่น ๆ จากร้านค้าออนไลน์มาใช้ ในหอพักนักศึกษานานาชาตินอกจากจะมีเครื่องปรับอากาศสองระบบแล้วยังมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้บริการในห้องน้ำด้วย แต่ถ้าเป็นนักศึกษาจีนถ้าจะอาบน้ำอุ่นจะต้องไปอาบน้ำอุ่นในที่อาบน้ำที่แยกต่างหากจากหอพักและต้องเสียเงินเพิ่ม 

ช่วงตรุษจีนจะเป็นช่วงที่หนาวที่สุดบางปีหนาวถึงติดลบ 4-5 องศาเซลเซียส และหิมะที่ตกในอู่ฮั่นบางปีตกหนามากจนถึงขั้นต้องปิดสนามบินอู่ฮั่นเทียนเหอ เช่น ในช่วงตรุษจีนปี 2018 เกิดหิมะตกหนักทั่วอู่ฮั่น เฉพาะในสนามบินมีหิมะปกคลุมรันเวย์จนต้องยกเลิกเที่ยวบิน  เป็นต้น แต่หิมะที่ตกในอู่ฮั่นจะตกตามหลังเมืองอื่น ๆ ในมณฑลหูเป่ย ในขณะที่เมืองอื่นรอบ ๆ อู่ฮั่นที่อยู่ในมณฑลหูเป่ย เช่น เซียงหยาง หวงกาง เซียนหนิง หวงชื่อ จะมีหิมะตกไปก่อนหน้านั้นแล้ว และในมณฑลหูเป่ยมีหิมะตกมากจนถึงขึ้นเปิดลานสกีให้คนจีนไปเล่นสกี เช่น ที่เมืองเซียนหนิง ที่อยู่ห่างจากอู่ฮั่นไปประมาณครึ่งชั่วโมงหากเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง เมืองเซียนหนิงนี้นอกจากจะมีลานสกีให้เล่นแล้ว ในหน้าหนาวคนจีนก็ยังนิยมไปอองเซนด้วยการแช่บ่อน้ำพุร้อนในเมืองเซียนหนิงด้วย ลานสกีที่เซียนหนิงนอกจากจะเป็นที่นิยมในหมู่คนอู่ฮั่นแล้ว คนจีนจากเมืองอื่น ๆ ในแถบภาคกลางก็นิยมมาเล่นด้วยเช่นกัน เพราะไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงภาคเหนือของจีน

ช่วงหิมะกำลังตกคนไทยจะชอบมากเป็นพิเศษ เพราะให้บรรยากาศเหมือนกำลังดูมิวสิควิดีโอ ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่หิมะตกหนักที่เห็นหิมะปลิวล่องลอยเหมือนปุยนุ่น แต่บรรยากาศแบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อยนัก เพราะบ่อยครั้งและหลายวันที่หิมะไม่ตกแต่กลายร่างเป็นละอองฝนที่มีความเย็นเฉียบ ถนนหนทางต่าง ๆ ก็จะเงียบสนิทไร้ผู้คน จะมีแต่นักศึกษาต่างชาติจากประเทศเขตร้อนเดินออกไปถ่ายภาพหิมะกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บในจุดเยือกแข็ง และมองเห็นน้ำในสระเป็นน้ำแข็งบาง ๆ ปกคลุมไปทั้งสระน้ำ การออกไปถ่ายภาพหิมะที่ขาวโพลนก็ต้องรีบไปถ่ายภาพเก็บไว้ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเอารถไถมา

ไถออกเพื่อให้รถสามารถผ่านไปมาได้

หลังจากหิมะหยุดตกแล้ว ตามถนนหนทางต่าง ๆ จะมีพนักงานเอารถไถมาไถหิมะออก เพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ เพราะถ้ารอให้หิมะจับตัวเป็นก้อนแล้วก็จะยิ่งทำความสะอาดถนนยาก ส่วนตามทางเดินก็จะมีเสื่อที่ทำจากฟางเพื่อทำเป็นทางเดินกันลื่น การเดินบนหิมะที่จับตัวกันแล้วต้องอาศัยเทคนิคการทรงตัวอยู่มากเพราะหิมะที่จับตัวกันก็ไม่ต่างอะไรจากการเดินบนน้ำแข็งลื่น ๆ หิมะที่จับตัวเป็นน้ำแข็งนี้ก็ยิ่งจะทำให้อากาศหนาวมีความหนาวมากกว่าตอนที่หิมะตก กว่าหิมะที่จับตัวเป็นก้อนจะละลายหมดก็น่าจะกินเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ เวลาที่ปั่นจักรยานหรือขี่จักรยานไฟฟ้าช่วงหิมะละลายก็ต้องใช้ความระมัดระวังมากเพราะถนนจะลื่นมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ยอมเดินมากกว่าการปั่นจักรยานบนถนนที่มันลื่น ๆ

ในฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ต้องจ่ายค่าไฟแพงกว่าฤดูอื่น ๆ เพราะต้องเปิดฮีตเตอร์และเครื่องบรรเทาความหนาวกันทั้งวันทั้งคืน แต่ถ้าเป็นมณฑลที่มีความหนาวเย็นมาก ๆ เช่น ทางตอนเหนือของประเทศจีน จะมีฮีตเตอร์และเครื่องทำน้ำอุ่นที่เป็นท่อขนาดใหญ่ไว้บริการเป็นการเฉพาะ นักศึกษาไทยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในประเภทคนที่แพ้ความหนาว บางคนแพ้มากก็จะโดนความเย็นกัดจนมือบวม และแม้ว่าอากาศจะหนาวเหน็บแค่ไหน คนไทยก็ยังต้องอาบน้ำทุกวันแม้ว่าเหงื่อจะไม่ออกแม้แต่หยดเดียวก็ตาม


ดร.ศรีสุข​ อาชา
นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค
สำนักประชาสัมพันธ์เขต ๓
ศิษย์เก่า​คณะวารสารศาสตร์และการสื่อสาร​
Huazhong​ University of Science and Technology
Wuhan, Hubei

#武汉加油 #武汉 #Wuhan