อ้ายจงเล่าความจริง: จีนฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั้ง Sinopharm และ Sinovac แต่ปัจจุบันเริ่มฉีดแบบ “ผสม” เข็มแรกเป็น Sinopharm เข็มสองใช้ Sinovac ส่วนผลข้างเคียงมีทั้งคู่ อาการที่พบในโลกออนไลน์จีน เช่น “ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ท้องเสีย มีไข้”
.

มีหลายคนเข้ามาถามอ้ายจงว่า “จริงหรือ? ในประเทศจีน ไม่มีการฉีดวัคซีนโควิด Sinovac จีนฉีดแค่ Sinopharm คือ Sinovac มีไว้สำหรับส่งออกไปต่างประเทศเท่านั้น” อ้ายจงขอยืนยันว่า “ไม่จริงนะครับ” โดยข้อเท็จจริง มีรายละเอียดประมาณนี้
.
จากที่อ้ายจงเช็คข้อมูลจากข่าวสารต่างๆที่มีรายงานออกมาจากประเทศจีน ไม่ว่าจะสื่อออฟไลน์ ทีวี และสื่อออนไลน์ เว็บไซต์ข่าวต่างๆ พบว่า ทางการจีนมีการใช้วัคซีนหลักๆในตอนนี้คือ ทั้ง Sinopharm และ Sinovac แต่จะแตกต่างไปตามแต่ละเมือง ขึ้นอยู่ว่าจะฉีดอะไร บางเมืองก็ฉีดทั้งสอง

.
อ้ายจงได้สอบถามจากเพื่อนชาวจีนของอ้ายจงเหมือนกัน ลามไปถึงถามแฟนของเพื่อนด้วย 555 พบว่า ก็มีทั้งฉีด Sinovac และ Sinopharm ครับ ถามพวกเขาด้วยว่า มีผลข้างเคียงอะไรไหม ก็ตอบว่าไม่มีนะ ทั้งสองแบบ
.
แต่จะดูจากสื่อจีน และถามจากเพื่อนอย่างเดียว อ้ายจงว่ายังไม่พอ อยากจะรู้ถึงเสียงของคนจีนจริงๆว่าเขามีการกล่าวถึงการฉีดวัคซีนบ้างไหม เอาแค่อยากรู้ว่า ฉีดวัคซีนเจ้าไหนกันบ้าง คือออกตัวไว้ก่อนว่า สำหรับปัญหาหรือผลข้างเคียงหลังฉีด ในโลกออนไลน์จีน อาจไม่มีข้อมูลส่วนนี้ เพราะว่ากันตามตรง อย่างที่อ้ายจงเคยเล่าบ่อยๆ ทางการจีนตรวจสอบสื่อและข้อมูลที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ได้ มีเซ็นเซอร์ ดังนั้น ถ้าข้อมูลอะไรที่เป็นไปในทางลบมากๆ ก็อาจจะไม่มีปรากฎให้เห็นเท่าไหร่ แต่เท่าที่ดูก็พอมีความคิดเห็นเรื่องผลข้างเคียง อ่านได้ด้านล่างเลย
.
อ้ายจงไล่ดูข้อมูลบนโลกโซเชียลจีน อย่างบน Weibo และ Xiaohongshu พบว่า

“คนจีนได้รับการฉีดวัคซีน ทั้ง Sinopharm และ Sinovac” จริงๆครับ ไล่ดูจากรูปได้เลย

ถ้า Sinopharm ใช้คำว่า “北京生物 วัคซีน Sinopharm ที่พัฒนาร่วมกับ Beijing Institute of Biological Products หรือ 武汉生物 วัคซีน Sinopharm ที่พัฒนาร่วมกับ Wuhan Institute of Biological Products ”

ส่วน Sinovac ใช้คำว่า “科兴”
.
หลายคนฉีด Sinopharm หรือ Sinovac อย่างใดอย่างหนึ่งทั้งสองเข็ม แต่ปัจจุบัน เริ่มมีจำนวนไม่น้อยได้รับการฉีดแบบ “ผสม” ฉีดเข็มแรกเป็นแบบหนึ่ง พอเข็มสองเป็นอีกหนึ่ง โดยเฉพาะตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะฉีดเข็มแรกเป็น Sinopharm และเข็มที่สองได้รับการฉีดเป็น Sinovac ครับ
.
เท่าที่ไล่อ่านความคิดเห็นเจอว่า บางเมืองตอนแรกฉีดวัคซีน Sinopharm ทั้งหมด แต่พอมาเข็มสอง ณ ขณะนี้ ฉีด Sinovac บางคนก็บอกว่าได้ยินข่าวมา “ช่วงนี้จีนจะฉีดแต่ Sinovac แล้ว ยังไม่แน่ใจเหตุผลว่าเพราะอะไร บางคนบางสื่อก็มีบอกว่า เป็นเรื่องของกำลังการผลิต อาจจะขาดตลาด สำหรับ Sinopharm แต่ก็ไม่มีการยืนยันจากทางการนะ”
.
สำหรับประเด็น Sinovac เน้นส่งออกไปต่างประเทศ อ้ายจงขอเล่าแบบนี้

ช่วงแรกๆที่จีนเริ่มผลิตวัคซีนได้ ทั้ง Sinovac และ Sinopharm จีนส่ง Sinovac ไปหลายประเทศมากกว่า Sinopharm จริงๆครับ จีนส่งไป บราซิล ไทย ซิลี เป็นต้น แต่ตอนนี้ Sinopharm ก็เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับการส่งไปใช้ยังต่างประเทศแล้วครับ อย่างบังกลาเทศ และอินโดนีเซีย ก็มีการอนุมัติวัคซีน Sinopharm ในประเทศของตนแล้ว ด้วยเหตุนี้อาจเป็นไปได้ว่า เพราะ Sinopharm เตรียมส่งไปต่างประเทศมากขึ้น จึงเน้นใช้ Sinovac ในประเทศในตอนนี้
.
ส่วนผลข้างเคียงจากการฉีด Sinovac ที่หลายคนถามเข้ามาว่าในจีนเป็นไงบ้าง อ้ายจงอ่านความคิดเห็นในโลกโซเชียลจีน ผลข้างเคียงก็ มีท้องเสียบ้าง ปวดกล้ามเนื้อบ้าง แต่ไม่ได้หนัก ส่วน Sinopharm เท่าที่ไล่ดู อย่างบนเว็บไซต์ที่คุยเกี่ยวกับสุขภาพในจีน ก็มีคนจีนตั้งกระทู้ว่า มีปวดหัว มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เหมือนกัน
.
ทั้งนี้ ทาง WHO องค์การอนามัยโลก กำลังดำเนินการตรวจสอบ Sinopharm และ Sinovac เพื่อขึ้นบัญชีวัคซีใช้งานฉุกเฉิน
.
# สรุป:

– จีนใช้วัคซีนโควิด ทั้ง Sinopharm และ Sinovac จริงๆมีตัวอื่นด้วยที่อนุมัติให้ใช้ในจีน เช่น CanSino วัคซีนแบบฉีดเข็มเดียว

– วัคซีนจาก Sinopharm มีแบบ พัฒนาร่วมกับ Beijing Institute of Biological Products และ พัฒนาร่วมกับ Wuhan Institute of Biological Products ”

– ปัจจุบัน จีนฉีดผสมกันระหว่าง Sinopharm และ Sinovac ส่วนใหญ่ที่พบเป็นไปในลักษณะ เข็มแรก: Sinopharm เข็มสอง: Sinovac

– มีคนจีนโพสต์เล่าผลข้างเคียง ทั้ง Sinopharm และ Sinovac โดยอาการที่พบ ได้แก่ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ตัวร้อน ท้องเสีย (อันนี้คือเท่าที่เห็นในโซเชียล ในข้อมูลออนไลน์นะครับ เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าทางการจีนคุมสื่อได้ ผลข้างเคียงบางอย่างอาจไม่ปรากฎในโลกออนไลน์)

– จีนเตรียมส่ง Sinopharm ไปหลายประเทศมากขึ้น

– WHO กำลังตรวจสอบวัคซีนทั้งสองรายเพื่อขึ้นบัญชีวัคซีนโควิดฉุกเฉิน

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน





ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง