ชิงไป๋เจียงมีการออกมาตรการเชิงนโยบายในการเร่งฟื้นฟูองค์กรหรือโครงการเพื่อให้มีการดำเนินงานตามปกติ ช่วยกันเร่งแก้ไขปัญหาในภาคการผลิตและการบริการ อีกทั้งยังมีการส่งเสริมการดำเนินงานทางเศรษฐกิจให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น สำหรับนโยบายเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่มีการตีพิมพ์หรือการกระจายข่าวและจะยกเลิกใช้หลังจากผ่านช่วงสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า ซึ่งจะมีการออกนโยบายใหม่รวมทั้งสิ้น 10 นโยบาย ดังนี้
1. การสร้างองค์กรหรือโครงการเป็นกลไกในการประสานงานสำหรับฟื้นฟูอุตสาหกรรม
เขตชิงไป๋เจียงมีการจัดตั้งสำนักงานใหญ่เพื่อใช้ในการฟื้นฟูองค์กรหรือโครงการให้พร้อมรับมือกับไวรัสโคโรน่า โดยภายในจะมีการป้องกันโรคระบาดอย่างครอบคลุม ทำให้การทำงานดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดี นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งผู้นำเขตและหน่วยงานอื่น ๆ สำหรับการติดต่อดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้จะมีการคิดวิเคราะห์ปัญหาที่พบในช่วงระยะเวลาที่เกิดโรคระบาดและค่อย ๆ แก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามขั้นตอน
2. การจัดเตรียมวัสดุก่อสร้างเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการฟื้นฟู
3. เพื่อเป็นการรับประกันองค์กรหรือโครงการจะมีการจัดหาวัสดุป้องกันโรคระบาด ภายในพื้นที่จะมีการเพิ่มผลิตวัสดุที่ป้องกันโรคและยังมีการสั่งซื้อเครื่องมือทางการแพทย์อย่างครบครันมากขึ้น ในส่วนของการชำระเงินจะมีการจ่ายล่วงหน้าในการจัดซื้ออุปกรณ์โดยจะจ่ายเงินค่าลงทุนร้อยละ 20 โดยจะมียอดเงินสนับสนุนในการลงทุน ทั้งสิ้น 500,000 หยวน เพื่อเพิ่มปริมาณในการจัดซื้อสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ
4. การจัดซื้อเสบียงอาหารให้กับพนักงานภายในองค์กร
5. ช่วยแก้ไขปัญหาการจ้างงานที่ยากลำบากให้กับองค์กรหรือโครงการการจ้างงาน โดยจะจัดหาพนักงานที่มีความสามารถที่ตรงกับความต้องการขององค์กร การจ้างงานจะจัดขึ้นผ่านทางออนไลน์และการดำเนินงาน ต่าง ๆ จะอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการจัดหารถรับส่งพนักงานบางส่วนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม
6. ช่วยป้องกันโรคระบาดให้ครอบคลุมมากที่สุดสำหรับองค์กรหรือโครงการ
7. ช่วยปรับปรุงและแก้ไขปัญหาทางการเงิน โดยจะมีการยื่นมือเข้าช่วยบริษัทหรือหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ซึ่งจะมีการออกใบคำร้องในการช่วยเหลือบริษัทเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเครดิตและบริษัทค้ำประกันที่ได้รับผลกระทบจะมีเงินอุดหนุนในค่าใช้จ่ายร้อยละ 50
8. การลดหรือยกเว้นภาษีการผลิตและการดำเนินงานขององค์กร สำหรับองค์กรที่จ่ายภาษีทรัพย์สินหรือภาษีการใช้ที่ดินจะได้รับการยกเว้น ในขณะเดียวกันบางองค์กรที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดไม่สามารถจ่ายภาษีของตนได้นั้น จะสามารถชำระเงินล่าช้าตามกฎหมายได้ไม่เกิน 3 เดือน มีการงดค่าใช้จ่ายให้องค์กรธุรกิจ เช่น การไฟฟ้า แก๊ส และการสื่อสาร สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องในการผลิตวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรน่า เช่น ยา หน้ากากอนามัย เครื่องมือทางการแพทย์จะได้รับเงินสนับสนุนในส่วนของค่าไฟร้อยละ 30
9. การลดหรือยกเว้นค่าเช่าพื้นที่หรือค่าเช่าบ้าน สำหรับองค์กรที่เช่าทรัพย์สินของรัฐจำเป็นที่จะต้องกลับมาดำเนินงานก่อนเดือนมีนาคม ปี 2563 ซึ่งไม่มีการเก็บค่าเช่าที่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนเมษายน และ 5 เดือนหลังจากนี้ค่าเช่าพื้นที่จะลดเหลืองเพียงครึ่งหนึ่งจากราคาเดิม นอกจากนี้ยังมีบางโครงการที่เปิดให้เช่าพื้นที่จะมีการลดค่าเช่า หรือไม่มีการเก็บค่าเช่า แต่ว่าเจ้าของโครงการจะได้รับเงินสนับสนุนเช่นกัน
10. การลดต้นทุนการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทานโลจิสติกส์ ซึ่งบริษัทโลจิสติกส์ (ขนส่งระหว่างประเทศ) ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมศุลกากรได้มีการให้ค่าชดเชยสำหรับค่าธรรมเนียมซึ่งให้รายการละ 150 หยวน สำหรับบริษัทการค้าระหว่างประเทศที่ซื้อประกันหรือสินเชื่อในการส่งออกและนำเข้าล่วงหน้าจะได้รับเงินสนับสนุนเต็มอัตรา
จัดทำโดย
นางสาวณัฐสินี พงษ์จิรวณิช นักศึกษาฝึกงาน ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู
เรียบเรียงโดย
นางสาวชญานุช หนูทอง เจ้าหน้าที่ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู
นางสาวอรพรรณ พงษ์กิจการุณ เจ้าหน้าที่ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู
แหล่งที่มา
เว็บไซต์ทางการ QING BAI JIANG หัวข้อ ชิงไป๋เจียงเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฉบับ (วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563)
ภาพประกอบจาก
http://wx.abbao.cn/a/18122-d58263dcad6cb1b5.html