เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 64 นครเฉิงตูได้เปิดใช้เส้นทางรถไฟขนส่งสินค้าในลักษณะหลากหลายรูปแบบ ไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรถไฟขบวนแรกวิ่งจากนครเฉิงตูไปยังท่าเรือซินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ต่อด้วยการขนส่งทางเรือไปยังฟิลิปปินส์ ใช้เวลาเพียง 5-7 วัน และสามารถลดต้นทุนการขนส่งได้ถึง 2 ใน 3

          นายเจิ้ง ซวงลี่ รองผู้จัดการบริษัท Chengdu Airport Modern Service Industry Development Co., Ltd. เปิดเผยว่า สินค้าที่บริษัทขนส่งด้วยเส้นทางดังกล่าวคือ น้ำเกลือ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มค่อนข้างต่ำ ทำให้ต้องควบคุมต้นทุนการขนส่ง ที่ผ่านมา บริษัทใช้เส้นทางขนส่งสินค้าทางถนนไปยังท่าเรือขนส่งในนครฉงชิ่ง และขนส่งทางเรือจากนครฉงชิ่งผ่านเมืองหลูโจวหรือเมืองอี๋ปินไปยังนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งใช้เวลามากกว่า 10 วัน หากเป็นช่วงฤดูแล้งก็จะใช้เวลาในการขนส่งนานถึงครึ่งเดือน การขนส่งด้วยเส้นทางใหม่นี้ สามารถขนส่งสินค้าจากนครเฉิงตูไปถึงท่าเรือซินโจวได้ภายใน 3 – 4 วัน นอกจากนี้ ระยะเวลาการขนส่งจากท่าเรือซินโจวไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็สั้นกว่าการขนส่งจากนครเซี่ยงไฮ้มาก และเมื่อเปรียบเทียบต้นทุนค่าขนส่งจากนครเซี่ยงไฮ้แล้ว การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่จากท่าเรือซินโจวจะสามารถประหยัดต้นทุนได้ตู้ละประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น การขนส่งจากท่าเรือซินโจวไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงช่วยประหยัดทั้งระยะเวลาและต้นทุนในการขนส่ง

          นายหลิว เจียว ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของบริษัท Chengdu Jieshengtong Logistics Co., Ltd. เห็นว่า การขนส่งแบบหลากหลายรูปแบบ (เรือ+ราง) ช่วยแก้อุปสรรคในการขนส่งผลิตภัณฑ์ในเขตการค้าเสรีระหว่างจีนกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิสาหกิจมีเงื่อนไขความต้องการด้านความหลากหลายทางโลจิสติกส์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแรงกดดันด้านต้นทุน และหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัญหาด้านความมั่นคงในการขนส่งทางน้ำยิ่งปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้วิสาหกิจจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับการขนส่งทางรางมากยิ่งขึ้น

          ปัจจุบัน นครเฉิงตูได้พัฒนาระบบความเชื่อมต่อทางอากาศกับทางรางที่ท่าอากาศยานนานาชาติ ซวงหลิว เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ และดึงดูดบริษัทด้านโลจิสติกส์ชั้นนำ เช่น 4PX Worldwide Express, SF Express, La Poste หันมาใช้บริการเส้นทางขนส่งดังกล่าว

          ในอนาคต นครเฉิงตูตั้งเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนการขนส่งด้วยรถไฟระหว่างประเทศ 500 ขบวนต่อปี มีคลังสินค้าในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 3-5 แห่งในอาเซียน และสร้างแพลตฟอร์มให้บริการแบบครบวงจร

          ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตูคาดว่า การเพิ่มเส้นทางการขนส่งทางเรือ + ราง จากนครเฉิงตูไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะส่งผลดีต่อประเทศในภูมิภาค และอาจช่วยผู้ประกอบการไทยประหยัดต้นทุนและเวลาในการขนส่ง ในการนี้ ผู้ประกอบการไทยอาจพิจารณาศึกษาว่าเส้นทางดังกล่าวจะเป็นโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับธุรกิจของท่านหรือไม่ โดยเฉพาะโอกาสในการส่งออกสินค้าของท่านไปยังพื้นที่ภาคตะวันตกของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งน่าจะมีศักยภาพสูงและเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสินค้าคุณภาพจากไทยในอนาคตต่อไป รวมถึงโอกาสในการขนส่งสินค้าต่อไปยังยุโรปด้วย

แหล่งอ้างอิง (ข้อมูล)

  1. https://baijiahao.baidu.com/s?id=1717224544021404282&wfr=spider&for=pc

  2. http://www.cdrb.com.cn/epaper/cdrbpc/202111/24/c89916.html

  3. https://www.pmdu.go.th/rcep/

แหล่งอ้างอิง (ภาพ)

  1. http://www.58pic.com/newpic/36357363.html

ที่มา : https://thaibizchina.com/