ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ชนชั้นกลางจีนจำนวนมากต่างเตรียมการเฉลิมฉลองร่วมกับครอบครัวและเพื่อนสนิท ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักไม่ละเลยที่จะจัดเตรียมสุราขาวชั้นดีไว้สังสรรค์ในโอกาสแสนพิเศษนี้ด้วย โดยเฉพาะหากเป็นสุราขาวยี่ห้อ “กุ้ยโจวเหมาไถ” (Kweichow Moutai) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุราขาวชั้นยอดของจีนที่หาซื้อยากและมีราคาสูง ก็ยิ่งเป็นการส่งเสริม “ฐานะทางสังคม” ของเจ้าภาพงานเลี้ยงได้เป็นอย่างดี
ที่ผ่านมา ผู้บริโภคจีนส่วนใหญ่ต้องหาซื้อสุราขาวเหมาไถผ่านช่องทางต่าง ๆ และต้องยอมจ่ายเงินประมาณ 1,499 หยวน ซึ่งเป็นจำนวนสองเท่าของราคาขายปลีกตามปกติเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ได้สุราขาวยี่ห้อเหมาไถ “มือสอง” มาครอบครอง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ นอกจากการซื้อของมือสองแล้ว ผู้บริโภคจีนส่วนใหญ่ยังนิยมหาซื้อสุราเหมาไถผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ เช่น Suning, JD.com หรือ Tmall ซึ่งจำหน่ายสินค้าของแท้คุณภาพดีในราคาไม่สูงมาก แต่ผู้ซื้อแต่ละรายก็ต้องอาศัยความรวดเร็วในการแย่งกดปุ่ม “ซื้อ” เนื่องจากในแต่ละครั้งสินค้ามักขายหมดในเวลาเพียงไม่กี่ “วินาที” ทั้งนี้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่จะจำกัดโควตาการซื้อสุราเหมาไถ โดยชาวจีนแต่ละคนต้องใช้ชื่อจริงในการลงทะเบียนซื้อสินค้าชนิดนี้ได้คนละไม่เกินสองขวดต่อเดือน
ผลจากความนิยมบริโภคสุราขาวเหมาไถยังทำให้เกิดกลุ่มผู้บริโภคที่หาซื้อเพื่อเก็งกำไรอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทที่ต้องการหารายได้เสริม โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้ปรากฏคลิปวิดีโอที่มีหญิงสาวรายหนึ่งฝึกความแข็งแรงและความรวดเร็วของการใช้นิ้วมือกดปุ่ม “ซื้อ” สุราเหมาไถบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วยการใช้ปืนนวดกำลังความถี่สูงบริหารนิ้วมือภายหลังการออกกำลังกายอย่างหนัก ซึ่งถึงแม้จะกลายเป็น “คลิปไวรัล” ที่น่าขบขันบนโลกอินเทอร์เน็ตจีน แต่ก็กระตุ้นให้ Tmall ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่จำหน่ายสุราเหมาไถต้องออกมาประกาศเตือนว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องอันตราย รวมทั้งสุราเหมาไถมีไว้เพื่อ “การบริโภค” ไม่ใช่ “การเก็งกำไร”
แม้จะมีการกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคจีนซื้อสุราเหมาไถอย่างมีสติดังเช่นกรณีข้างต้นของ Tmall แต่ชาวจีนส่วนใหญ่ยังคงยินดีที่จะหาช่องทางพิเศษในการให้ได้มาซึ่งสินค้าชนิดนี้ เช่น การใช้โค้ดพิเศษจากเว็บไซต์ GitHub.com เพื่อให้ได้สิทธิการเข้าถึงการซื้อสุราเหมาไถบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ เป็นลำดับต้น นอกจากนี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ท่าอากาศยานหลงนานาชาติหลงต้งเป่า นครกุ้ยหยาง ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังมณฑลกุ้ยโจวมากขึ้นโดยอาศัยชื่อเสียงของสุราเหมาไถด้วยการจัดแคมเปญลอตเตอรี่ชิงโชคสิทธิการซื้อเหมาไถที่ท่าอากาศยาน โดยผู้โชคดีจะได้รับสิทธิซื้อสุราเหมาไถคนละไม่เกิน 2 ขวดในราคาขายปลีก ซึ่งแต่ละวันท่าอากาศยานฯ ได้จัดเตรียมสุราเหมาไถไว้ 600 ขวด รวมทั้งมีบริการจัดส่งถึงบ้านในช่วงสถานการณ์โรคระบาดอีกด้วย อย่างไรก็ดี มีนักท่องเที่ยวผู้โชคดีจจำนวนมากที่เลือกจะขายสุราเหมาไถต่อเพื่อเอากำไรกับนายหน้าที่มารับซื้อถึงท่าอากาศยานทันที
สุราเหมาไถของมณฑลกุ้ยโจวเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับตั้งแต่ได้รับเลือกให้ใช้รับรองอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ของสหรัฐอเมริกาขณะเดินทางเยือนประเทศจีนเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 2515 รวมทั้งยิ่งมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเมื่ออดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) กล่าวกับอดีตประธานเติ้ง เสี่ยวผิง ขณะเดินทางเยือนจีนเมื่อปี 2517 ว่า “ผมคิดว่าหากเราดื่มสุราเหมาไถ ไม่ว่าเรื่องใดก็ย่อมสามารถหาทางออกได้” ซึ่งนับเป็นการรับรอง “สถานะ” ของสุราขาวชนิดนี้ที่จะใช้ในงานเลี้ยงรับรองโอกาสสำคัญและเป็นของกำนัลที่มีมูลค่าสูง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชนชั้นกลางจีนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สุราเหมาไถเป็นสินค้าที่ “ไม่ไกลเกินเอื้อม” ของผู้บริโภคกลุ่มนี้อี่กต่อไป โดยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สุราเหมาไถมีราคาเฉลี่ยขวดละ 800 หยวน เท่ากับเงินเดือนในแต่ละเดือนของชาวจีนในเขตเมือง ขณะที่จากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 เงินเดือนเฉลี่ยในเขตเมืองของชาวจีนเพิ่มสูงถึง 3,600 หยวนแล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงมีกำลังซื้อ “สินค้าหรูหรา” ชนิดนี้เพิ่มมากขึ้น เปรียบเสมือนผู้หญิงจีนส่วนใหญ่ที่เห็นกระเป๋าหลุยส์ วิตตองเป็นของหรูหรา หรือรองเท้ากีฬา Air Jordan ของวัยรุ่นจีนส่วนมาก เหล่านี้ ล้วนส่งเสริมวัฒนธรรมการรักษา “หน้า” ในสังคมจีนเป็นอย่างดี
ที่มา: https://www.chinadaily.com.cn/a/202102/10/WS60232d5da31024ad0baa876a.html
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู