ไฮไลท์
- รัฐบาลกว่างซีได้ประกาศเพิ่ม 6 สาขาธุรกิจที่ให้การส่งเสริมสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ได้แก่ เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้สำหรับการป้องกันโรคระบาด การผลิตวัตถุดิบยา การผลิตเยื่อไม้และเยื่อกระดาษเคมี และอุปกรณ์ปลายทางอัจฉริยะ (smart terminal devices) โดยจะผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2564 ทำให้ธุรกิจที่ส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาดำเนินการในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงมีจำนวนทั้งหมด 38 สาขา
- รัฐบาลกว่างซีให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา รัฐบาลกว่างซีได้โฟกัสการให้บริการนักลงทุนต่างชาติและการช่วยเหลือนักลงทุนต่างชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับสภาพแวดล้อมทางการลงทุนในการเข้ามาจัดตั้งธุรกิจในกว่างซี ประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ คือ เรื่องการคุ้มครองผลประโยชน์ตามกฎหมายให้แก่นักลงทุนต่างชาติ
- รัฐบาลกว่างซีมุ่งมั่นส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยปรับปรุงนโยบายรัฐให้มีความยืดหยุ่นและเอื้อต่อนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขกฎระเบียบ ลดขั้นตอน ลดข้อจำกัดของทุนต่างชาติในการเข้าสู่ตลาด รวมถึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เพื่อปั้นให้กว่างซีเป็นมณฑลที่น่าดึงดูดให้เข้ามาลงทุน
รัฐบาลกว่างซีได้ประกาศเพิ่ม 6 สาขาธุรกิจที่ให้การส่งเสริมสำหรับนักลงทุนต่างชาติ หลังจากเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 รัฐบาลกลางได้ประกาศ “บัญชีรายชื่อกิจการที่ให้การส่งเสริมสำหรับนักลงทุนต่างชาติฉบับใหม่ ปี 2563” โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2564
การประกาศบัญชีรายชื่อใหม่นี้ทำให้ธุรกิจที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงให้การส่งเสริมสำหรับนักลงทุนต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 38 สาขา โดย 6 สาขาใหม่ ได้แก่ เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ ของใช้สำหรับการป้องกันโรคระบาด การผลิตวัตถุดิบยา การผลิตเยื่อไม้และเยื่อกระดาษเคมี และอุปกรณ์ปลายทางอัจฉริยะ (smart terminal devices)
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์เครื่องจักร การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 15% จากปกติ 25% รวมถึงสิทธิประโยชน์การใช้ที่ดินในอุตสาหกรรมการผลิต โดยบัญชีรายชื่อธุรกิจที่ให้การส่งเสริมสำหรับนักลงทุนต่างชาติในเขตฯ กว่างซีจ้วง มีดังนี้
1. การผลิตเมล็ดพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์พืชใหม่ | 20. การพัฒนาเทคโนโลยีและการแปรรูปกระจกโฟลต (Float glass) เชิงลึกที่มีคุณภาพสูงประเภทต่างๆ |
2. การเพาะปลูกและแปรรูปผลไม้ ถั่วเปลือกแข็ง น้ำมัน (fruit oil) เครื่องเทศ และพืชเครื่องดื่ม (Beverage crops) และการวิจัย พัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวแบบครบวงจร | 21. การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเหลวที่ใช้มันสำปะหลัง สบู่ดำ และเมล็ดยางพาราเป็นวัตถุดิบ |
3. การบุกเบิกพัฒนาธุรกิจต่อยอดจากโครงการด้านระบบนิเวศที่มีความสำคัญระดับประเทศ | 22. การผลิตล้อยางเรเดียลที่มีสมรรถนะสูงประเภทต่างๆ เช่น ยางประเภท Tubeless / Low-section และ Flat (Aspect Ratio ไม่เกิน 55%) ยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขอบ 15 ยางล้ออากาศยาน และยางล้อสำหรับเครื่องมือเกษตร |
4. การพัฒนาและผลิตแหล่งวัตถุดิบยาที่ได้จากพืชและสัตว์ | 23. การผลิตยานยนต์สำเร็จรูปและการผลิตรถยนต์ที่ใช้งานเฉพาะด้าน (ไม่รวมถึง Semi-trailer truck / Dump truck / Tank truck / Van body truck และ Stake truck) ตามข้อกำหนดว่าด้วยการบริหารจัดการการลงทุนอุตสาหกรรม ยานยนต์ |
5. การผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ถั่วที่ไม่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรม เช่น นมผงถั่วโภชนาการ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่ว โปรตีน เลซิตินจากถั่ว | 24. การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ประเภทต่างๆ เช่น เกียร์อัตโนมัติ6 จังหวะ เพลาสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์พาณิชย์ ระบบไฟหน้า วัสดุน้ำหนักเบา คลัตช์รถยนต์ อุปกรณ์ลดแรงกระแทกระบบไฮดรอลิก ระบบควบคุมจากส่วนกลาง และที่นั่ง |
6. การแปรรูปน้ำตาลอ้อยที่มีกำลังการหีบอ้อยวันละไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัน และการใช้ประโยชน์เชิงบูรณาการ | 25. การผลิตเครื่องยนต์มอเตอร์ที่ไม่ใช้บนท้องถนน ซึ่งมีปริมาณการปล่อยมลพิษเข้าเกณฑ์มาตรฐานขั้น 4 |
7. การแปรรูปน้ำมันสน (Rosin) เชิงลึก | 26. การวิจัย พัฒนา และผลิตเครื่องมือทางการเกษตร อาทิ เครื่องปลูกอ้อยและเครื่องเก็บเกี่ยวอ้อย |
8. การออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้ ไม้ไผ่ เถาวัลย์ โลหะ และพลาสติก | 27. การผลิตชิ้นส่วนสำคัญประเภทต่างๆ ของเครื่องจักรวิศวกรรมขนาดใหญ่ |
9. การผลิตและแปรรูปเครื่องนุ่งห่ม สิ่งทอ และสิ่งทอระดับสูงจากฝ้าย ขนสัตว์ ป่าน ไหม และเส้นใยสังเคราะห์ รวมถึงการวิจัย พัฒนา และตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง | 28. การพัฒนาและผลิตอุปกรณ์ชั้นสูงที่ใช้ผลิตยา |
10. การก่อสร้างสายการผลิตกระดาษและกระดาษแข็ง (สายการผลิตเยื่อไม้เคมีสายเดี่ยวที่มีกำลังการผลิตมากกว่าปีละ 3 แสนตัน / เยื่อไม้เคมที่มีกำลังการผลิตมากกว่าปีละ 1 แสนตัน / เยื่อไม้ไผ่เคมีที่มีกำลังการผลิตมากกว่าปีละ 1 แสนตัน) การก่อสร้างสายการผลิตเยื่อกระดาษสายการผลิตเดี่ยวที่มีกำลังการผลิตมากกว่าปีละ 1 แสนตัน โดยจะต้องใช้กรรมวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้วัตถุดิบที่เป็น non–wood fiber การพัฒนาและผลิตอุปกรณ์การผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษที่มี ความทันสมัย การวิจัย พัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการฟอกขาวเยื่อกระดาษเคมีแบบ Elemental Chlorine Free (ECF) และ Totally Chlorine Free (TCF) |
29. การพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตชิ้นส่วนสำคัญ และอุปกรณ์ปลายทางอัจฉริยะ (smart terminal devices) อาทิ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต |
11. การวิจัย พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผลิตวัตถุดิบในกลุ่มคาร์บอน (กราฟีน คาร์บอนไฟเบอร์) และวัสดุและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากวัตถุดิบดังกล่าว | 30. แพลตฟอร์มเทคโนโลยี third-party ในการวิจัย พัฒนา และผลิตยาและอุปกรณ์การแพทย์ เช่น แพลตฟอร์มการคัดกรองยา แพลตฟอร์การถ่ายทอดเทคโนโลยีคลินิก แพลตฟอร์มการขยายผลงานวิจัยในระดับนำร่อง |
12. การแปรรูปแคลเซียมคาร์บอเนตเชิงลึก | 31. ธุรกิจบริการด้านอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคม (จำกัดเฉพาะสาขาที่เปิดภายใต้กรอบ WTO) |
13. การผลิตสินค้าสแตนเลส | 32. บริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งผู้โดยสารทางถนน |
14. การผลิตสินค้าและวัสดุทองแดงและเหล็กอัลลอย | 33. สถาบันอาชีวศึกษา (รวมถึงโรงเรียนเทคนิค) |
15. การแปรรูปแร่โลหะเชิงลึก เช่น สังกะสี ดีบุก พลวง ทังสเตน แมงกานีส และอินเดียม | 34. การก่อสร้างและให้บริการด้านสาธารณูปโภคในเขตเมือง เช่น ก๊าซ พลังงานความร้อน และน้ำประปา |
16. การวิจัย พัฒนา และผลิตเซรามิกเชิงศิลปะ ของใช้ในชีวิตประจำวัน และเชิงอุตสาหกรรม | 35. การผลิตการ์ตูนแอนิเมชันและการต่อยอดผลิตภัณฑ์ |
17. การแปรรูปเชิงลึก (ไม่รวมสูตรยาที่เป็นความลับ) ยาธรรมชาติ วัตถุดิบยา และยาสมุนไพรจีนสำเร็จรูป รวมถึง การวิจัยและพัฒนายาและอุปกรณ์การแพทย์ตามศาสตร์แพทย์ชนชาติจ้วง |
36. ธุรกิจด้านพักผ่อนและสันทนาการ เช่น บริการดูแลสุขภาพ วัฒนธรรมชนชาติ และการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ |
18. การพัฒนาและผลิตเทคโนโลยีการแพทย์ชีวภาพ (Biotechnology) | 37. การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (medical tourism) |
19. การวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ รวมถึงการผลิตและแปรรูปวัสดุทางการแพทย์ | 38. การพัฒนา อนุรักษ์ และดำเนินธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในแหล่ง(จุด)ท่องเที่ยว |
บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า รัฐบาลกว่างซีให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวข้างต้นเป็นหนึ่งในผลการดำเนินงานเพื่อลดข้อจำกัดของทุนต่างชาติในการเข้าสู่ตลาด (market access) สะท้อนให้เห็นถึงการเปิดกว้างของตลาดกว่างซี(จีน)มากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา รัฐบาลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ได้ประกาศ “แผนงานจัดตั้งแพลตฟอร์มบริการแบบเบ็ดเสร็จสำหรับนักลงทุนต่างชาติในกว่างซี” โดยโฟกัสการให้บริการนักลงทุนต่างชาติ (Customer Service) และการช่วยเหลือนักลงทุนต่างชาติ (Customer Support) เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับสภาพแวดล้อมทางการลงทุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาจัดตั้งธุรกิจในกว่างซี รวมทั้งช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจต่างชาติสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงและมั่นคง
นอกจากนี้ รัฐบาลกว่างซีได้ดำเนินการปฏิรูปการทำงานและระบบการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ลดขั้นตอน ลดเอกสาร ลดระยะเวลา รวมถึงประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ได้แก่ “การคุ้มครองผลประโยชน์ตามกฎหมายให้แก่นักลงทุนต่างชาติ” โดยรัฐบาลกว่างซีเน้นย้ำว่าธุรกิจต่างชาติจะได้รับการปฏิบัติด้วยความเสมอภาคและทัดเทียมทางกฎหมาย การแข่งขัน และการคุ้มครอง/สิทธิประโยชน์ทางการลงทุน รวมถึงการพัฒนากลไกการทำงานเพื่อให้บริการและติดตามความคืบหน้าในการลงทุน รวมถึงเคาน์เตอร์รับเรื่องร้องเรียนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
เห็นได้ว่า รัฐบาลกว่างซีมุ่งมั่นส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยปรับปรุงนโยบายรัฐให้มีความยืดหยุ่นและเอื้อต่อนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขกฎระเบียบ ลดขั้นตอน ลดข้อจำกัดของทุนต่างชาติในการเข้าสู่ตลาด การคุ้มครองนักลงทุนต่างชาติ เพื่อปั้นให้กว่างซีเป็นมณฑลที่น่าดึงดูดให้เข้ามาลงทุน
จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ http://swt.gxzf.gov.cn/ (广西商务厅) วันที่ 31 ธันวาคม 2563
ภาพประกอบ freepik.com
The post กว่างซีเพิ่มธุรกิจที่ให้การส่งเสริมสำหรับนักลงทุนต่างชาติ appeared first on thaibizchina.