1. รัฐบาลเซี่ยงไฮ้จะออกนโยบายใหม่เพื่อส่งเสริมความเป็นสากลของสกุลเงินหยวน
– ผลักดันให้เซี่ยงไฮ้ขึ้นเป็นศูนย์กลางสกุลเงินหยวนโลก อีกทั้งกระตุ้นการไหลเวียนกองทุนเงินหยวนด้วย โดยนโยบายดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาใหม่ของจีนที่มุ่งการพัฒนาแบบเปิดกว้างยิ่งขึ้น ซึ่งการปฏิรูปทางการเงินคาดว่าจะช่วยดึงดูดสถาบันการเงินต่างชาติเข้ามาเซี่ยงไฮ้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและบริการทางการเงินใหม่ ๆ ด้วย
. – ทั้งนี้ รัฐบาลได้ประกาศตั้งเป้าในปี 2552 ว่าจะผลักดันให้เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการเงินโลกควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยกระดับสกุลเงินหยวนเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของโลกภายในปี 2563 โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อปรับปรุงตลาดทุนและพัฒนาโครงสร้างทางการเงินให้ดีขึ้น
2. จีนระงับการซื้อขายหุ้น IPO ของบริษัท Ant Group ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้
– เนื่องจากจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ส่งผลให้บริษัท Ant Group ในเครืออาลีบาบาขาดคุณสมบัติในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น อาทิ ในด้านการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงมาตรการควบคุมการกู้ยืมเงินแบบออนไลน์ในจีนที่เข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทได้เสนอขายหุ้น IPO ที่มูลค่ารวมประมาณ 34,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสองตลาดหุ้นดังกล่าว โดยปัจจุบันบริษัท Ant Group เป็นบริษัทด้าน FinTech ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และมีผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วจีน
3. เกาะฉงหมิงประกาศจัดงานนิทรรศการดอกไม้จีน ครั้งที่ 10 วันที่ 21 พ.ค. – 2 มิ.ย. 2564
– ภายใต้สโลแกน “Blossom with a Chinese Dream” ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกที่เกาะฉงหมิงและมีพื้นที่ในการจัดนิทรรศการใหญ่ที่สุดกว่าที่ผ่านมา โดยคาดว่างานดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมดอกไม้ในจีนและช่วยดึงดูดผู้เดินทางมาเยี่ยมชม รวมถึงเอื้อประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ด้วย โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์จะร่วมจัดนิทรรศการดอกไม้ด้วย
. – รัฐบาลเกาะฉงหมิงตั้งเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศน์ระดับโลกและส่งเสริมอุตสาหกรรมดอกไม้ในจีน ปัจจุบันได้ดึงดูดลบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมดอกไม้ของโลก 8 แห่งเข้าลงทุนที่เกาะฯ มีมูลค่าลงทุนกว่า 2,500 ล้านหยวน ได้สร้างเขตนิคมอุตสาหกรรมดอกไม้และศูนย์ดอกไม้นานาชาติรวมกว่า 4 แห่ง
4. เขตผู่ตงใหม่จะผลักดันให้เขตฯ เป็นศูนย์กลางด้านหุ่นยนต์ภายใน 3 ปี
– ปัจจุบันเขตผู่ตงใหม่เป็นที่ตั้งของบริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์กว่า 100 แห่ง มูลค่ารายได้รวมกว่า 1,500 ล้านหยวนในปี 2562 โดยตั้งเป้าจะสร้างมูลค่ารายได้ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพิ่มเป็น 50,000 ล้านหยวนในปี 2566 ปัจจุบันมี บ. ด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ในเขตอุตสาหกรรมจางเจียงแล้ว 10 ราย และตั้งเป้าหมายเป็นย่านศูนย์กลางด้านหุ่นยนต์ชั้นนำของจีนที่มีบทบาทในระดับสากล ซึ่งจะพยายามส่งเสริมด้านการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ การรับรู้อัจฉริยะ และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่น ๆ อาทิ ด้านการดูแลสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ และการศึกษา เป็นต้น
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู