นายหม่า เหวย ประธานบริษัท CiDi (Changsha Intelligent Driving Institute) เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์อัจฉริยะ (Intelligent Connected Vehicle) ระหว่างงาน 2020 Internet Yuelu Summit ที่นครฉางซาว่า ปัจจุบัน นครฉางซามีรถยนต์อัจฉริยะรวม 3,400 คัน โดยในอนาคต นครฉางซาจะสามารถควบคุมเครือข่ายการขนส่งสาธารณะ รถยนต์ราชการ และสัญญาณไฟจราจรของเมือง ด้วยการเชื่อมต่อเป็นระบบอัจฉริยะทั่วทั้งเมือง เพื่อสร้างระบบนิเวศใหม่ของเมืองอัจฉิรยะ
ปัจจุบัน นครฉางซามีประสบการณ์เป็นพื้นที่ทดสอบรถยนต์อัจฉริยะมาแล้ว 3 ปี โดยมี “พื้นที่ทดสอบรถยนต์อัจฉริยะแห่งชาตินครฉางซา” (National Intelligent Connected Vehicle (Changsha) Testing Zone) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในจีนเปิดบริการให้กับบุคคลภายนอกมาตั้งแต่ปี 2561 ภายในพื้นที่ทดสอบดังกล่าวมีสัญญาณ 5G ครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ขนาด 1,230 หมู่ (ประมาณ 513 ไร่) รวมทั้งยังมีทางทดสอบที่เป็นทางด่วนอัจฉริยะความยาว 100 กิโลเมตร และถนนอัจฉริยะในเมืองความยาวกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนอัจฉริยะที่ยาวที่สุดในจีน โดยนับจนถึงขณะนี้ มีรถยนต์อัจฉริยะหลายประเภทเข้าไปทดสอบภายในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ได้แก่ รถแท็กซี่อัจฉริยะ รถบรรทุกอัจฉริยะ และรถทำความสะอาดถนนอัจฉริยะ
นอกจากนี้ เมื่อเดือนเมษายน 2563 นครฉางซายังได้เปิดตัวบริการรถยนต์อัจฉริยะ 2 ประเภท ได้แก่ รถแท็กซี่อัจฉริยะของบริษัทไป่ตู้ (Baidu) และรถเมล์อัจฉริยะสาย 315 ซึ่งมีกลไกการทำงานร่วมกับสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะที่ติดตั้งตามสี่แยกไฟแดงและอุปกรณ์เครือข่ายอัจฉริยะที่ติดตั้งริมถนน ในภาพรวม รถยนต์อัจฉริยะจะมีส่วนในการยกระดับความสะดวกสบายและประสิทธิภาพของระบบขนส่งของนครฉางซาง ทั้งนี้ นับจนถึงเดือนกรกฎาคม 2563 นครฉางซามีรถเมล์อัจฉริยะรวม 2,000 คัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน การพัฒนารถยนต์อัจฉริยะของจีนยังคงเผชิญกับความท้าทายใน 3 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยี ต้นทุน และกฎหมาย
ที่มา: https://tech.sina.com.cn/roll/2020-09-08/doc-iivhuipp3247856.shtml

webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู