มาดูความคิดเห็นของชาวเน็ตจีน “เมื่อสาวจีนคนหนึ่งมาบ่นในโลกออนไลน์ว่า ใส่ส้นสูงยืนบนรถไฟใต้ดิน ไม่มีใครลุกให้นั่งเลย”
.
เมื่อเห็นเรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์บ้านเราวันนี้เกี่ยวกับ “การลุกหรือไม่ลุกให้หญิงสาวที่ถือถุงช้อปปิ้งนั่งบนรถไฟฟ้า” ทำให้อ้ายจงนึกถึงกระทู้นึงบนโลกออนไลน์จีนที่เพิ่งอ่านไปเมื่อวันก่อนครับ
กระทู้นี้ถูกโพสต์บน Baidu Zhidao โดยตั้งหัวข้อว่า “บนรถไฟใต้ดินควรจะลุกให้ผู้หญิงที่ใส่ส้นสูงนั่งไหม?”
เนื้อหาของกระทู้ก็สั้นๆครับ คนตั้งกระทู้เขียนว่า
“สวมส้นสูงยืนมาทั้งวันแล้ว พอขึ้นรถไฟใต้ดินกลับบ้าน ไม่มีใครลุกให้ฉันนั่งเลย ไม่สนใจจะมองเลยด้วย”
กระทู้นี้มีคนมาตอบกระทู้ไม่เยอะ ประมาณ 15คน แต่คำตอบของแต่ละคน “แซ่บ” มากๆ โดยไปในทิศทางเดียวกันคือ “ไม่มีความจำเป็นต้องลุกให้นั่งนี่ เพราะทุกคนเลิกงานมา ก็เหนื่อยเช่นกัน”
และนี่คือใจความสำคัญของแต่ละความคิดเห็นที่อ้ายจงสรุปมา แต่ไม่ได้เอามาทั้งหมดนะครับ
– ปกติแล้วเวลาใช้บริการขนส่งมวลชน ก็จะลุกให้สำหรับเด็กคนแก่คนป่วยและคนท้องเท่านั้นนะ ส่วนเรื่องใส่รองเท้าส้นสูง มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องดูแลตนเองนะ
– ปกติแล้วพวกเราจะลุกให้แต่เด็กคนแก่คนท้องและคนป่วย คือถ้าคุณรู้สึกว่าใส่ส้นสูงแล้วเจ็บเท้าหรือไม่สบาย ก็พูดออกมาก็ได้ คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณอาจจะจำเป็นจริงๆที่ต้องนั่ง โดยขอแนะนำว่า เวลาเลิกงานให้ถอดรองเท้าส้นสูงแล้วเปลี่ยนเป็นรองเท้าที่สวมสบายแทน เวลากลับบ้านจะได้โอเคนะ
– เวลาเลิกงานแล้วกลับบ้านทุกคนก็ต่างเหนื่อยกันทั้งนั้น จริงอยู่ว่าคุณเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้เป็นเหตุผลที่จะต้องลุกให้นั่งนะ ใส่ส้นสูงก็เช่นกัน ผมเป็นผู้ชายถ้าผมใส่ส้นสูงแบบคุณแล้วปวดเมื่อย แบบนี้ก็ต้องให้ผมนั่งล่ะสิ
– เท่าที่รู้คือ ควรลุกให้คนแก่เด็กคนป่วยและคนท้องนั่งนะ ยังไม่เคยได้ยินว่าต้องลุกให้คนใส่ส้นสูงนั่ง คือถ้าเป็นแบบนั้น สงสัยทั้งรถไฟใต้ดินคนที่ได้นั่งคงมีแต่สาวๆใส่ส้นสูงล่ะมั้ง
– ก็เลือกที่จะใส่ ก็เป็นปกติที่จะต้องเมื่อยหรือปวดเป็นธรรมดา แต่ก็นะ ถ้าองในมุมที่ว่า เห็นใจและสงสารผู้หญิงคนนึง ก็ลุกให้นั่งได้
จากเรื่องนี้ทำให้เราได้รู้ว่า “ความคิดของคนจีนคือ จะลุกให้นั่งแก่เด็กคนแก่คนท้องและคนป่วย รวมถึงคนที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย มีความลำบากในการยืน คือมีความจำเป็นที่จะต้องนั่ง เท่านั้น”
ใครที่อยากอ่านเต็มๆ เข้าไปได้ที่ https://zhidao.baidu.com/question/431076640965680892.html
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง