เมื่อ แรงงานอพยพค่าแรงแสนถูกในกรุงปักกิ่ง กระทบโดยตรงต่ออีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์จีนที่มีเงินสะพัดมหาศาล
หลังจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้ในย่านห้องเช่าราคาถูก เขตต้าซิง ชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงประเทศจีน ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ย่านนั้น เป็นแรงงานอพยพต่างถิ่น ทำให้ผลที่ตามมาคือ “คำสั่งจากกรุงปักกิ่งให้ผู้คนย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อจะมีการทำลายที่พักอาศัย-สิ่งก่อสร้าง ตามมาตรการปรับปรุงและตรวจสอบความปลอดภัยที่พักรวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมือง”
คำสั่งในครั้งนี้ ส่งผลให้แรงงานอพยพจำนวนมากไม่มีที่พักอาศัย และเดินทางกลับบ้านเกิดจำนวนมาก ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโลกอีคอมเมิร์ซของจีน
พวกเราอาจจะเกิดคำถามในใจว่า แรงงานอพยพค่าแรงแสนถูกเนี่ยน่ะหรือ? จะกระทบโดยตรงต่ออีคอมเมิร์ซที่มีเงินสะพัดเป็นแสนล้านหยวนเพียงแค่วันเดียวในเทศกาลคนโสดที่ผ่านมา
แรงงานอพยพในปักกิ่ง ที่มีค่าจ้างรายวันถูกมาก ถือเป็นแรงงานหลักในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ทำหน้าที่เป็นแรงงานส่งของ ขนของในราคาถูก ไม่ว่าจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆอย่างยาสีฟัน ไปจนถึงทีวีขนาดใหญ่
“เมื่อขาดแรงงานเหล่านี้ จึงสร้างความปวดหัวให้กับบรรดาบริษัทขนส่งและแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซในจีน เพราะแรงงานราคาถูกหายากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนโลจิสติกส์สูงขึ้นอย่างแน่นอน” – Huang Gang ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ สมาคมอีคอมเมิร์ซจีน กล่าว
4 บริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ของจีน – BEST, ZTO, YTO และ STO ต่างออกมาประกาศ “เวลาในการขนส่งสินค้า จะได้รับผลกระทบจนถึงประมาณสิ้นเดือนธันวาคมนี้” พนักงานขนส่งคนหนึ่งของ ZTO ให้สัมภาษณ์ว่า ปกติแล้วจะส่งสินค้าได้ประมาณ 100 ชิ้น แต่ตอนนี้ตกลงมาที่ประมาณ 20 ชิ้น และตอนนี้หลายร้านค้าบนแพลทฟอร์มของ Alibaba (อาลีบาบา) ก็หยุดส่งสินค้ามายังกรุงปักกิ่งชั่วคราว
ด้านพนักงานขนส่งสินค้าคนหนึ่งของ SF Express บริษัทขนส่งรายใหญ่ของจีน กล่าวว่า “เพื่อนร่วมงานของผมประมาณ 6 คน จากทั้งหมด 50 คนในทีม ต้องนอนในรถส่งสินค้า ท่ามกลางอุณหภูมิ -5 องศาเซลเซียส เพราะบ้านของพวกเขาถูกทำลาย แต่ตอนนี้ทางบริษัทได้ดำเนินการหาที่พักให้กับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว”
มาที่ฟากของ JD.com อีคอมเมิร์ชยักษ์ใหญ่ของจีน คู่แข่งสำคัญของอาลีบาบา ได้มีประกาศออกมาว่า “ทางบริษัทจะมีการปรับปรุงที่พักของพนักงานให้ตรงตามข้อกำหนดความปลอดภัยของทางกรุงปักกิ่ง และจะช่วยเหลือพนักงานขนส่งของบริษัท ที่ถูกสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ตามคำสั่งของทางการ”
สภาโลจิสติกส์และการซื้อขายของจีน ระบุว่า “จากการสำรวจเงินเดือนของพนักงานขนส่งสินค้า สามไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2017 พบว่า รายได้เฉลี่ยน้อยกว่า 5,000 หยวน (ประมาณ 25,000 บาท) ต่อเดือน โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะต้องเสียเงินไปกับค่าโทรศัพท์ติดต่อลูกค้า-ผู้รับสินค้า และ ค่าชดใช้ ที่เกิดจากการสินค้าเสียหายระหว่างขนส่ง
“บริษัทขนส่งหลายราย เริ่มหยุดรับสินค้าที่ส่งเข้ามาในกรุงปักกิ่ง เพราะพวกเขาไม่มีกำลังพอที่จะส่งไปถึงผู้รับ ทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องเสียรายได้นับร้อยล้านหยวน” – Wang Fei ผู้บริหารบริษัทคลังสินค้าในปักกิ่ง “Lianzhong Cloud Warehouse กล่าว ซึ่งจากคำกล่าวของเขา ทำให้สัมผัสได้เลยว่า ผลกระทบในครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
นอกจากจะสั่งให้แรงงานอพยพออกนอกพื้นที่กรุงปักกิ่งแล้ว ทางการปักกิ่งยังสั่งปิดคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าที่ตั้งขึ้นโดยปราศจากใบอนุญาต ซึ่งคลังสินค้าจำนวนมากต้องย้ายจากเขตเมืองไปยังชายขอบเพื่อต้นทุนที่ถูกลง
“คลังสินค้า คิดเป็นสามส่วนของต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมด ทำให้ที่ผ่านมา บริษัทขนส่งในจีนต่างเช่าคลังสินค้าราคาถูก ที่ส่วนใหญ่ต่างผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง และตอนนี้ก็กำลังถูกปราบอย่างหนักจากนโยบายที่ออกมาโดยทางการปักกิ่ง ทำให้บริษัทขนส่งต้องย้ายไปใช้คลังสินค้าที่ถูกกฎหมาย แต่ผลที่ตามมาก็คือ ต้นทุนสูงขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโลจิสติกส์สมัยใหม่ แห่งมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ กล่าว
เรื่องนี้ไม่ได้เพียงแต่กระทบบริษัทโลจิสติกส์เท่านั้น “Baidu” ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีของจีน ออกมาตรการช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยจัดหาโรงแรมและบริษัทขนย้ายข้าวของภายในบ้าน ในราคาถูกพิเศษให้กับพนักงาน รวมถึงจัดพื้นที่ภายในบริษัท เพื่อให้พนักงานได้นำกระเป๋า และสิ่งของจำเป็นมาฝากไว้ ขณะหาที่พักอาศัยใหม่”
อ้ายจงเรียบเรียงจาก
Financial Times https://www.ft.com/content/8e415492-d643-11e7-8c9a-d9c0a5c8d5c9
เครดิตรูปภาพ : EPA, AFP, The New York Times
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #อีคอมเมิร์ซจีน #ecommerce #โลจิสติกส์จีน #ปักกิ่ง
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง