” เรียนรู้ประวัติศาสตร์จีน ใน 2นาที จากทรงผมของชายจีนในช่วงเวลาต่างๆ ในรอบ 100ปี (1916-2016) ”
คลิปนี้กำลังกลายเป็นกระแสในสังคมออนไลน์ของจีน หลังจากอัพโหลดคลิปในวันที่ 16สิงหาคมที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียง2วัน มียอดวิวกว่า37ล้านวิว และถูกแชร์ไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์ในขณะนี้ ซึ่งไอ้ที่เป็นกระแส เท่าที่สังเกตดู มาจากความหล่อของนายแบบในคลิป และ จากสิ่งที่คนจีนจำนวนไม่น้อยเลยสงสัยกันว่า “เฮ้ย ทรงผมในปี2006 มันทรงอะไรกันเนี่ย?”
สำหรับ Timeline ช่วงเวลาในคลิปนี้ อ้ายจงขอสรุปคร่าวๆ ดังนี้
– 1916 ยุคหลังปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ชิงในปี 1911 หลังจากสิ้นราชวงศ์ชิง เหล่าผู้ชายชาวจีนก็ตัดผมเปียออก สิ้นสุดการไว้ผมตามวัฒนธรรมของแมนจู
– 1926 ต่อเนื่องมาจากยุคปฏิวัติทางความคิด และเหตุการณ์ 4พฤษภาคม 1919 …ประเทศจีนยังคงมีความวุ่นวายทางการเมือง และในปี 1921 เหมา เจ๋อตุง ได้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้น เพื่อต่อต้านรัฐบาลของพรรคก๊กมินตั๋ง
– 1936 ยุคเซี่ยงไฮ้เฟื่องฟู เป็นเขตสัมปทานต่างชาติ คนจีนจึงได้รับอิทธิพลการแต่งตัวจากต่างชาติ และอยู่ในช่วงสงครามกลางเมือง – สงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย
– 1956 อยู่ในช่วงการปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของเหมา เจ๋อตุง หลังจาก เหมา เจ๋อตุง ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ วันที่1 ตุลาคม 1949 หลังการปกครองประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ปูทางสู่สังคมนิยมอย่างเป็นทางการ โดยพัฒนาประเทศแบบรวมศูนย์ ทั้งอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม
ในปี 1956 เหมา เจ๋อตุง ได้ดำเนินโครงการ ดอกไม้ร้อยดอกบานสะพรั่ง (Hundred Flowers campaign) เพื่อปฏิรูปการ
ศึกษา ปลูกฝังแนวคิดสังคมนิยมให้ประชาชนและ เปิดโอกาสให้ปัญญาชนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึงเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิด วิพากษ์วิจารณ์พรรคอย่างเสรี
แต่ในภายหลัง การวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นอย่างรุนแรงจนควบคุมไม่ได้ ดังนั้น จึงมีการยุติ นโยบาย ดอกไม้ร้อยดอกบานสะพรั่งในกลางปี 1957 พร้อมทั้งรณรงค์ให้ต่อต้านกลุ่มที่วิจารณ์พรรคอย่างรุนแรง โดยถือว่าเป็นพวกขวาจัด
– 1966 ช่วงปี1966 – 1976 ยุคปฏิวัติวัฒนธรรม (The Cultural Revolution) ในช่วงต้น1960 อำนาจและบทบาทของเหมา เจ๋อตุง ในพรรคคอมมิวนิสต์ค่อยๆถูกลดบทบาทลงเนื่องจากความล้มเหลวของนโยบายบริหารประเทศแบบก้าวกระโดดของเขา เมื่อเหมา กลับมามีอำนาจในพรรคอีกครั้ง เขาจึงพยายามปฏิวัติประเทศอีกครั้ง โดยก่อตั้ง กองทัพยุวชนแดง(พิทักษ์แดง) Red Guard ขึ้นมา โดย หมวกดาวแดง เป็นหนึ่งในเครื่องแต่งตัวของ Red Guard
– 1976 แม้ Bruce Lee ดารายอดนักบู๊คนดังของจีน ที่ดังไกลระดับ Hollywood จะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1973 แต่ชื่อของเขายังได้รับการกล่าวขานและจดจำมาจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 1976 มีหนังชีวประวัติของเขาออกฉายหลายเรื่อง ทำให้วัยรุ่นจีนทำผมและแต่งตัวเลียนแบบเขา
– 1986 ยุคเพลงร็อครุ่งเรืองในจีน มีเจ้าพ่อเพลงร็อคคนสำคัญอย่าง Cui Jian
– 1996 ในยุค 90s ทรงผมทรงเห็ด (center-split hair style) เป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมและมีอิทธิพลต่อแฟชั่นของหนุ่มจีนในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นทรงผมของ กัว ฟู่เฉิง 郭富城 หรือ แอรอน กัว Aaron Kwok นักร้องนักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในยุค 90 โดยมีผลงานในฮ่องกงและไต้หวัน แต่ก็ดังในจีนแผ่นดินใหญ่มาก ถือว่าเป็นไอดอลของวัยรุ่นยุคนั้นเลย จนได้รับฉายาให้เป็น 1ใน 4จตุรเทพของฮ่องกง (อีก 3 คนได้แก่ หลิวเต๋อหัว หลี่หมิง จางเซี๊ยะโหย่ว)
ผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเพลงหนึ่งของ กัว ฟู่เฉิง คือ 对你爱不完 (รักเธอไม่มีวันหมด) “ที่เราได้ยินเพลงท่อนหนึ่งในคลิปนี้ว่า ตุ้ยหนี่อ้ายอ้ายอ้ายปู้หวาน นั่นเอง (ท่าทางที่นายแบบทำในคลิปสำหรับปี 1996 ก็มาจากท่าเต้นของ กัว ฟู่เฉิง ใน MV เพลงนี้ครับ)”
– 2006 กระแส เจร็อค (J-Rock) ร็อคของญี่ปุ่นบูมในจีน ทำให้วัยรุ่นฮิตทำทรงผมแบบ เจร็อค หรือที่คนจีนเรียกว่า 杀马特 ทับศัพท์จากศัพท์ภาษาอังกฤษ SMART
– 2016 กระแสเกาหลีฟีเวอร์ ไม่ได้เข้ามาแค่ที่ไทย แต่ก็ฮิตมากในจีนเช่นกัน
เดี๋ยวไว้คราวหน้า อ้ายจงจะมาเล่าเรื่องราวแต่ละยุคอย่างละเอียดอีกทีหนึ่งนะครับ 🙂
#เล่าเรื่องเมืองจีน #ประวัติศาสตร์จีน #จีน #ประเทศจีน #ชายจีน #ทรงผม #100ปี
[fb_vid id=”840890302709201″]
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง
