กิจกรรมดูนกกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมในวันหยุดสุดสัปดาห์

เมื่อเดือนธันวาคม 2563 นครเฉิงตูได้รับเลือกให้เป็นเมืองสาธิตด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และการบริโภค (国家文化和旅游消费示范城市) เป็นกลุ่มแรกในประเทศจีน โดยปัจจุบันนครเฉิงตูเน้นการบูรณาการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งกิจกรรมชมนกและชมหิ่งห้อยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวเฉิงตูเป็นพิเศษ

แม้กิจกรรมดูนกเป็นกิจกรรมยามว่างของขุนนางอังกฤษ มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี แต่ที่ผ่านมา นครเฉิงตูได้พัฒนาระบบนิเวศวิทยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นครเฉิงตูมีนกที่สวยงามนานาชนิด โดยสมาคมชมนกนครเฉิงตู เปิดเผยว่า ปัจจุบันนครเฉิงตูมีนกทั้งหมด 511 สายพันธุ์ ทำให้การชมนกเป็นที่นิยมมากขึ้นในรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

นายเจี่ยง จื้อโหย่ว เจ้าหน้าที่องค์กรวิจัยด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเฉิงตูเซียงเหย่โจ่วหลาง (Chengdu Xiangyezoulang) เปิดเผยว่า เมื่อปี 2559 มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมดูนกของทางองค์กรเพียง 100 คน ในปี 2560 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 ร้อยคน ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมดูนกปีละหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองที่พาลูก ๆ มาดูนก

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี เป็นช่วงการอพยพตามฤดูกาลของนก ซึ่งภูเขาหลงฉวนที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเฉิงตู เป็นทางผ่านและที่พักอาศัยชั่วคราวของนกที่กำลังเดินทาง จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมนก โดยข้อมูลสถิติของสมาคมดูนกนครเฉิงตู ระบุว่า ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2564 มีการพบเจอนกบนภูเขาหลงฉวนทั้งหมด 12,159 ตัว

นายเซิน โหย่ว ประธานสมาคมดูนกนครเฉิงตู เปิดเผยว่า การปรับปรุงระบบนิเวศวิทยา ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเมืองสาธิตสวนสาธารณะนครเฉิงตู ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพิ่มมูลค่าให้กับเมืองสวนสาธารณะนครเฉิงตู นครเฉิงตูมีนกเพิ่มขึ้นทุกปี และมีความหลากหลายทางสายพันธุ์มากขึ้น แสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศวิทยาโดยรวมของนครเฉิงตูกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น

ภายในสวนสาธารณะชิงหลงหู มีเกาะนกที่มีการเลี้ยงนกแบบอยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมในระยะไกล เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวรบกวนการใช้ชีวิตของนก

 

กิจกรรมชมหิ่งห้อยกระตุ้นการบริโภค 120 ล้านหยวน

ภูเขาเทียนไถ อยู่ห่างจากนครเฉิงตู 110 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์ชมหิ่งห้อยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และหนึ่งในแปดจุดชมหิ่งห้อยยอดนิยมของโลก ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายนของทุกปีเป็นช่วงฤดูชมหิ่งห้อย ฝูงหิ่งห้อยบินเรียงราย ส่องแสงระยิบระยับสวยงามราวกับดวงดาวในกาแล็กซี ดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิชาการจำนวนมากให้มาชมและศึกษาหิ่งห้อยที่นี่

เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจุดชมวิวภูเขาเทียนไถ เมืองโบราณผิงเล่อ เปิดเผยว่า หิ่งห้อยต้องการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการเพาะปลูกพืชที่หิ่งห้อยชอบอย่างต่อเนื่อง ทำให้หิ่งห้อยบริเวณนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้น ปัจจุบันมีมากกว่า 20 สายพันธุ์

ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวหลักแสนคนเข้ามาท่องเที่ยวที่จุดชมวิวภูเขาเทียนไถ กิจกรรมการชมหิ่งห้อยทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักที่ภูเขาแห่งนี้นานยิ่งขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับจุดชมวิวกว่า 120 ล้านหยวน

โอกาสของประเทศไทย

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเฉพาะชาวเฉิงตูหันมานิยมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากขึ้น ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าสนใจอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบนิเวศวิทยาให้ดียิ่งขึ้น ประกอบกับการประชาสัมพันธ์ผ่านทางโซเชียลมีเดียในจีนอย่างทั่วถึง และจัดกิจกรรมหรือเทศกาลท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อาทิ เทศกาลชมสัตว์น้ำ เทศกาลชมหิ่งห้อย จะช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในไทยมากขึ้น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ดียิ่งขึ้น ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: เว็บไซต์ Sichuan News (เข้าถึงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564)

http://scnews.newssc.org/system/20210827/001201357.html

ภาพประกอบ :

Chengdu Daily (成都日报)

cbgc.scol.com (川观新闻)

เว็บไซต์ Feepik

<a href=’https://www.freepik.com/photos/light’>Light photo created by wirestock – www.freepik.com</a>

ที่มา : https://thaibizchina.com/