1. สถานะของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนในระดับสากล
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2561 Times Higher Education (THE) หนึ่งในสี่สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้ประกาศรายชื่อการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก (THE World University Rankings) ประจำปี 2562 รวมรายชื่อมหาวิทยาลัยกว่า 1,250 แห่งจาก 86 ประเทศทั่วโลก โดยมหาวิทยาลัย Oxford คงอันดับหนึ่งเป็นปีที่สาม ตามด้วยมหาวิทยาลัย Cambridge และมหาวิทยาลัย Stanford เป็นอันดับที่สองและสามตามลำดับ ขณะที่มหาวิทยาลัย Tsinghua อยู่อันดับที่ 22 ขยับเพิ่มขึ้น 8 อันดับจากปีที่ผ่านมา สูงกว่ามหาวิทยาลัย Peking (อันดับ 31) และขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของทวีปเอเชียแทนที่มหาวิทยาลัย National University of Singapore เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554
ในปีนี้ มีมหาวิทยาลัยจีนที่ติดอันดับในรายชื่อดังกล่าวรวม 72 แห่ง (เพิ่มขึ้น 9 แห่งจากปีที่ผ่านมา) มากเป็นอันดับที่ 4 รองจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอังกฤษ โดยมี 7 มหาวิทยาลัยที่อยู่ใน 200 อันดับแรก ได้แก่ มหาวิทยาลัย Tsinghua มหาวิทยาลัย Peking มหาวิทยาลัย University of Science and Technology of China มหาวิทยาลัย Zhejiang มหาวิทยาลัย Fudan มหาวิทยาลัย Nanjing มหาวิทยาลัย Shanghai Jiao Tong ตามลำดับ
![World Rankings 2562.JPG](https://www.stsbeijing.org/wp-content/uploads/2020/05/image_1579233808.jpg)
2. ทิศทางการพัฒนามหาวิทยาลัยของจีน
นาย Phil Baty ผู้อำนวยการกองบรรณาธิการจัดอันดับของ THE กล่าวว่า รัฐบาลจีนได้จัดมหาวิทยาลัยเป็นปัจจัยสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งเห็นผลสำเร็จของนโยบายดังกล่าวได้จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีมหาวิทยาลัย Tsinghua และมหาวิทยาลัย Peking เป็นตัวแทนของจีนในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของโลก นาย Phil Baty วิเคราะห์ว่าเคล็ดลับความสำเร็จของจีนในการพัฒนามหาวิทยาลัย คือการขยายวิสัยทัศน์สู่ระดับสากลและผลักดันความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาอื่นทั่วโลก รวมถึงการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดมุ่งหมายหลักในการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วโลกให้อยู่กับมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้ชื่อเสียงและอิทธิพลของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนเพิ่มสูงขึ้นในเวทีโลก แนวทางดังกล่าวเป็นแบบอย่างให้กับประเทศตลาดกำลังพัฒนา (Emerging Markets Country) ในการพัฒนามหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาที่จะนำมาสู่การแข่งขันที่สูงขึ้นระหว่างมหาวิทยาลัยทั่วโลก
นอกจากนี้ ในวันที่ 11 กันยายน 2563 นาย Bin Yang รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย Tsinghua ได้เผยแพร่บทความวิเคราะห์ทิศทางการพัฒนาของมหาวิทยาลัยจีนว่า ในปัจจุบันปัจจัยด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ (Hardware and Software) ของมหาวิทยาลัยจีนชั้นนำอาจก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับมาตรฐานระดับสากล แต่ยังขาดปัจจัยด้าน Soulware ซึ่งนาย Bin Yang ได้ให้คำจำกัดความว่า คือ “คุณภาพที่จะทำให้มหาวิทยาลัยสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีอยู่เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่นักศึกษาและความผาสุขของสังคมส่วนรวม” ซึ่งการพัฒนา Soulware ไม่อาจมาจากแนวทางการจัดสรรทรัพยากรในปัจจุบันหรือการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตงานวิจัยที่อาจารย์และนักศึกษาเป็นเพียงแรงงานในสายการผลิต แต่จะต้องอาศัยความสนใจ แรงบันดาลใจ และการสร้างผลงานของนักศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัย Tsinghua และมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหลายแห่งของจีนกำลังเร่งการปฏิรูปและปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาจากการวิ่งไล่ตามผู้อื่น เป็นการพัฒนาที่ยึดตามความต้องการของสังคมและประเทศชาติ รวมถึงมุ่งแก้ปัญหาความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
![](https://www.stsbeijing.org/wp-content/uploads/2020/05/image_1579233836.jpg)
ปัจจุบันมหาวิทยาลัย Tsinghua เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมของจีน และเป็นผู้นำด้านการปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพการบ่มเพาะบุคลากรผู้มีความสามารถ ดังเห็นได้จากการปฏิรูปตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2560 มหาวิทยาลัยได้เพิ่มเติมเนื้อหาการฝึกอบรมสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Training) ในหลักสูตรปริญญาตรีกว่า 80 หลักสูตร และได้ยุบรวมสาขาวิชาชีพจาก 49 สาขาเหลือ 16 สาขา โดยการลดจำนวนหน่วยกิตของภาควิชาบังคับ และเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักศึกษาในภาควิชาสหสาขา เพื่อเน้นการพัฒนาความสามารถในการปรับตัว ทักษะทางวิชาชีพ และคุณสมบัติของนักศึกษา
บทวิเคราะห์ / ข้อคิดเห็น
แนวทางการพัฒนามหาวิทยาลัยของจีน โดยการขยายวิสัยทัศน์สู่ระดับสากลและผลักดันความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาอื่นทั่วโลก และการเพิ่มเงินลงทุนสนับสนุนมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สถาบันอุดมศึกษาของจีนสามารถขยายอิทธิพลและบทบาทการเป็นผู้นำในด้านการอุดมศึกษาและการวิจัยในเวทีโลก โดยโจทย์สำคัญในการพัฒนามหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนในปัจจุบัน คือการปฏิรูปแนวทางการพัฒนาที่จะต้องมุ่งยกระดับคุณภาพการศึกษา บ่มเพาะบุคลากรและผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมและประเทศชาติ และเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา