ประเทศจีน หนึ่งในประเทศที่แก้ไขปัญหาความยากจนได้เยี่ยมที่สุด จนสหประชาชาติยกย่อง โดยใช้เวลาเพียง40ปี นับตั้งแต่ปี1978 ลดจำนวนคนจนจาก 97.5% เหลือเพียง 3.1% เมื่อสิ้นปี2017
นโยบาย”ขจัดความยากจน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตชนบท-พื้นที่ห่างไกล” เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของจีนนับตั้งแต่มีการปฏิรูปประเทศ ซึ่งภายใต้การนำของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ก็ได้มุ่งเน้นนโยบายนี้มาโดยตลอดนับตั้งแต่ก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมีเป้าหมายว่า “ความยากจนจะหมดไปจากประเทศจีนภายในปี 2020” และตอนนี้ก็เหลือประชากรในเขตชนบทอีกประมาณ 30ล้านคน จะต้องถูกนำพาออกมาจากภาวะยากจน ภายในปี 2020
ทำไมจีนถึงมีชัยชนะเหนือความยากจน?
จากการที่อ้ายจงอยู่เมืองจีนมาประมาณ 8ปี ทำให้ได้เห็นว่า “จีนมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะลงทุนเพื่อให้เกิดสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้เหมาะสมกับการประกอบอาชีพและหารายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างยั่งยืน ไม่ได้ยื่นปลาให้ตรงๆ แต่พัฒนาพื้นที่ให้จับปลาได้ สอนให้จับปลาเป็น..”
ดังตัวอย่างเช่น การให้เงินทุนในการพัฒนาแต่ละท้องถิ่น จีนก็ไม่ได้ทุ่มเงินไปเฉยๆ หากแต่มีการตั้งหน่วยงานขจัดความยากจนขึ้นมา และส่งเจ้าหน้าที่ไปตามพื้นที่ต่างๆหลายล้านคน เพื่อเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดว่าแต่ละพื้นที่มีปัญหาอย่างไร จะได้แก้ไขตรงจุด และตั้งกองทุนหลากหลายลักษณะเพื่อแก้ไขหลากหลายปัญหาให้ตรงจุดตามที่กล่าวมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ในเขตพื้นที่ภูเขาที่อยู่ห่างไกล ไม่มีถนนหนทาง คนในพื้นที่ต้องปีนภูเขาเพื่อเข้ามาในเขตเมือง ทางจีนก็มีการพัฒนาพื้นที่นั้น โดยทำถนนหนทาง และสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงสนับสนุนทางด้านเกษตรกรรม
ที่พักอาศัย เป็นหนึ่งในปัจจัย4ของมนุษย์เรา ทางการจีนก็มีการพัฒนาที่พักอาศัยในเขตชนบทให้ดีขึ้น หรือมีการย้ายถิ่นให้มาอยู่ในที่ ที่ดีกว่าเดิม จนหลายครั้งเราจะได้เห็นความคิดเห็นในโลกออนไลน์กันว่า “คนที่ได้รับบ้านใหม่จากทางการ เปลี่ยนจากคนรวยมาเป็นเศรษฐีในทันใด เป็นผลมาจากการพัฒนาพื้นที่ให้มีมูลค่ามากขึ้น ไม่ใช่เขตชนบทที่แร้นแค้นอีกต่อไป”
E-commerce ก็มีบทบาทอย่างมากในการขจัดความยากจนในชนบทจีนเช่นกัน โดยพบว่ามีร้านออนไลน์ที่มีฐานอยู่ตามชนบท มากกว่า 28 ล้านรายในปี 2017 อย่างที่มณฑลเจ้อเจียง มีหมู่บ้าน 506 หมู่บ้าน ที่มาเป็นหมู่บ้านค้าขายออนไลน์ คนทั้งหมู่บ้านทำงานสาย e-commerce คิดสร้างงานให้กับคนมากกว่า 200,000 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการสนับสนุนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อย่างเช่น Alibaba และ JD.com
การทำงานของรัฐบาลจีนในการแก้ไขปัญหาความยากจน ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำ ต้องบอกได้ว่า มีความเข้มแข็งและความพยายามอย่างมากที่จะแก้ไขปัญหานี้ หากใครได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังจะพบว่า จีนไม่ได้ประสบความสำเร็จเลยในปีแรกๆของการเริ่มนโยบาย แต่มีการพัฒนามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะการก่อตั้งหน่วยงานขจัดความยากจนขึ้นมาอย่างจริงจัง และกระจายอำนาจให้หน่วยงานท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง มีการอัดฉีดเม็ดเงินลงไป และมีการแข่งขันอยู่กลายๆของแต่ละท้องถิ่น
จีนเอาจริงกับเกณฑ์ชี้วัดเจ้าหน้าที่รัฐในท้องถิ่นของจีน ซึ่งมีเกณฑ์เกี่ยวกับพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาความเป็นอยู่ การพัฒนาสังคม อยู่ในนั้นด้วย โดยมาตรการปราบคอรัปชั่น ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้การพัฒนาท้องถิ่นจีนเพื่อขจัดความยากจนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อยากรู้ว่าความยากจนของจีนถูกแก้ไขไปในทิศทางใด ก็ดูได้จากภาพเปรียบเทียบก่อนแก้ไขและหลังแก้ไขในแต่ละพื้นที่ยากจนของจีน ตามภาพที่นำมาให้ดูเลยครับ
ทั้งนี้ เหรียญย่อมมี2ด้าน แม้ว่าตัวเลขคนจนในจีนจะลดน้อยลงอย่างมาก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ในวงกว้างทั้งจากนักวิชาการและสื่อในจีนและต่างประเทศ เกี่ยวกับปัญหาแรงงานอพยพจากพื้นที่ชนบทเข้ามาในเขตเมืองใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีหลักร้อยล้านคน โดยมีปัญหาหลักๆเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตในเมืองใหญ่ เพราะเจอกับกฎเกณฑ์ข้อจำกัดสำมะโนครัว-ทะเบียนบ้าน และแม้ว่าทางจีนเองจะเริ่มมีการผลักดันให้แรงงานอพยพเหล่านี้กลับไปยังบ้านเกิดเพื่อประกอบอาชีพที่นั่น แต่แรงงานจำนวนไม่น้อยก็ยังมองว่า การหาเงินในเมืองใหญ่ยังดีกว่ามาก ทางจีนก็กำลังแก้ไขปัญหานี้เช่นกันเพื่อให้ไม่มีความเหลื่อมล้ำของประชากรระหว่างชนบท-เมืองใหญ่ (มากเกินไป) และแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง